Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2537
สืบวงษ์ สุขะมงคล คนหนุ่ม...ทายาทพัฒนายนต์             
 


   
search resources

พัฒนายนต์ชลบุรี
สืบวงษ์ สุขะมงคล




ในขณะที่น้องอีก5 คน ล้วนอยู่ระหว่างกำลังศึกษาด้านการบริหาร ในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ สืบวงษ์ สืบขะมงคล ทายาทคนโตวัยเพียง 26 ปี ของสุทิน และวิจิตรา สุขะมงคล จึงถูกวางบทบาทให้เป็นดั่งกองหน้าในหมู่พี่น้องทั้ง 6 คน ที่เข้ามาดูแลกิจการของบริษัท พัฒนายนต์ชลบุรี จำกัด ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานาน จาก ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรกลการ เกษตรและเรือประมง

และพร้อมกับการสืบสาน สืบวงษ์ กำลังถูกวางบทบาทให้เป็นไปตามแผนงานของผู้เป็นบิดามารดาที่จะขยายอาณาจักรสู่ธุรกิจอื่น ๆ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับธุรกิจพัฒนาที่ดิน

สืบวงษ์ เริ่มสะสมประสบการณ์ในการทำธุรกิจด้วยการช่วยงานด้านทั่ว ๆ ไปในธุรกิจของครอบครัว หลังจากที่สำเร็จการศึกษาขั้นปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน พ่วงด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในปี 2532 ซึ่งเป็นปีที่ธุรกิจพัฒนาที่ดินบูมสุดขีด และบริษัท พัฒนายนต์ชลบุรี เริ่มกระโดดเข้าสู่ธุรกิจพัฒนาที่ดิน

ในขณะที่มีธุรกิจในเครืออีก 20 บริษัท เช่นบริษัทบางนาพืชผล อิมปอร์ตเอกซ์ ปอร์ต, บริาทซี.เอส.เอส.ซี, บริษัทหอมศีลคอนกรีตผลิตเสาเข็ม, บริษัทเจริญมาริน ฯลฯ

ทรัพย์สิน ของบริษัททั้งหมดรวมกันแล้ว มีมูลค่านับหมื่นล้าน

เป็นเวลา 2 ปีที่ สืบวงษ์ สะสมประสบการณ์การทำงานหลังจากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านการบริหารทั่วไป จากมหาวิทยาลัยซีแอตเติ้ล สหรัฐอเมริกา จนสำเร็จการศึกษาและกลับมาช่วยงานธุรกิจครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง

ครั้งแรกอาจเรียกได้ว่า เป็นการ " ชิมลาง" แต่การเข้ามาจับงานครั้งใหม่ สืบวงษ์ ถูกวางบทบาทที่สำคัญมากขึ้น

ปัจจุบัน วิจิตรา ผุ้เป็นแม่ เริ่มเปิดตัวทายาททางธุรกิจคนนี้ โดยพาไปตามงานต่าง ๆ เพี่อแนะนำให้คนในแวดวงธุรกิจรู้จัก ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท พัฒนายนต์ชลบุรี จำกัด และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท แพทโก้แลนด์จำกัด เจ้าของโครงการสามนุช ธานี ที่ชลบุรี

" ขณะนี้ผมมีหน้าที่ดูแลกิจการของบริษัทในเครือ โดยแม่ให้ดูงานด้านพัฒนาทึ่ดิน งานการเงิน การบัญชี งานเกี่ยวกับเครื่องยนต์ และวางนโบายบริษัทในเครือในลักษณะที่ยังไม่ลงในรายละเอียดมากนัก" สืบวงษ์ พูดถึงบทบาทความรับผิดชอบของเขา ซึ่งดูแล้วออกจะกว้างขวาง ครอบคลุมธุรกิจทั้งหมดของครอบครัว

สืบวงษ์ ให้ความเห็น ถึงความแตกต่างระหว่างการดูแลพัฒนายนต์กับบริษัทพัฒนาที่ดิน กับ " ผู้จัดการ" ว่า ธุรกิจการพัฒนาที่ดินเป็นธุรกิจที่ทำเป็นโปรเจคต์ เป็นลูกค้าใหม่และชื่อเสียงของบริษัทในช่วงแรกยังไม่มี ส่วนพัฒนายนต์เป็นธุรกิจที่ต้องคิดต่อเนื่องวิธีการบริหารเป็นการซื้อมาขายไปในลักษณะหมุนเวียน

แต่ถึงอย่างไรก็ตามต้องทุ่มความสามารถให้ ทั้ง 2 ธุรกิจ เพราะต่อไปทางบ้านต้องการยกระดับของธุรกิจพัฒนาที่ดินให้เทียบเท่ากับธุกริจพัฒนายนต์ โดยเฉพาะหลังจากเปิดโครงการวิจิตรธานีที่ กม.36 มูลค่า โครงการ 5,000 ล้านบาท มีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

โดยให้แพทโก้แลนด์ เป็นบริษัทแม่ ในรูปของโฮลดิ้ง คัมปะนี เพราะเห็นว่า การพัฒนาที่ดินต้องใช้เงินทุนสูงในแง่ของการสะสมวัตถุดิบ คือที่ดิน

" หากเป็นบริษัทที่ไม่ได้เข้าตลาด จะไม่สามารถระดมทุนได้มาก ผิดกันกับบริษัทที่อยุ่ในตลาดฯ ซึ่งเป็นจุดที่ได้เปรียบ-เสียเปรียบอย่างมาก ต่อไปหากการแข่งขันสูง จะสู้บริษัทที่อยู่ในตลาดฯ ไม่ได้" สืบวงษ์กล่าว

ส่วนการแตกไลน์ไปทำธุรกิจอื่น ๆ เนื่องจากเป้าหมายของแม่ต้องการให้ดูแลธุรกิจในเครือก่อน หากธุรกิจไหนดี ก็ให้ขยายธุรกิจเดิมเพิ่มขึ้น หรือจะแตกไลน์ ไปทำธุรกิจ อย่างอื่นเพิ่มก็ได้

" ผมสนใจธุรกิจไฟแนนซ์ โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มเงินทุนหลักทรัพย์ น่าเป็นไปได้ในการลงทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง ในช่วงนี้ -10 ปีข้างหน้า แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ " จังหวะการลงทุน" ด้วยเพราะการลงทุนหลายหน่วยเกินไป จะทำให้เงินจม ทำให้เกิดปัญหาได้"

ปัจจุบัน สืบวงษ์ พยายามเรียนรู้เพื่อไต่เต้าความเป็นนักบริหารมืออาชีพโดยเรียนรู้เทคนิคการบริหารกิจการจากมารดา ซึ่งเน้นเรื่องความอ่อนน้อม , ขยัน และเทคนิคการเจรจาต่อรอง ส่วนเทคนิคการบริหารบุคคลเรียนรู้จากพ่อ

ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งทางด้านการศึกษาและมุมมองทางธุรกิจ สามารถเคี่ยวกรำให้สืบวงษ์มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลถึงจะอ่อนวัยมากในด้านอายุ แต่บนเส้นทางของนักธุรกิจย่อมเป็นที่ตระหนักดีว่า มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก เพราะนั่นคือปัจจัยที่จะใช้ไต่เต้าสู่ความสำเร็จ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us