Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2543
เงินจมกับโรงพยาบาล บทเรียนธุรกิจนอกไลน์             
 

   
related stories

"เจ๊รัช" ของพื้นบ้าน 'ไทยแลนด์แบรนด์'

   
search resources

โรงพยาบาลประชาเวช
รัชนี อ้วนไตร




ภายหลังการเข้ามาบริหารงานบริษัท เจ อาร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัดของมารุต อ้วนไตร ลูกคนที่ 3 รัชนีก็เริ่มวางมือจากการดูแลร้าน "เจ๊รัช" หันมาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานสังคม และเข้าไปถือหุ้นดำเนินธุรกิจตัวอื่น ที่สำคัญๆ เช่น ร่วมทุนตั้งบริษัทนอร์ธ อีสต์เทิร์น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัดเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลประชาเวช พร้อมกับได้ให้มารุตเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทด้วย

โรงพยาบาลประชาเวช เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น ใช้ทุนจดทะเบียน 360 ล้านบาท สร้างตึกสูง 10 ชั้น 220 เตียง บนพื้นที่ 15 ไร่ ติดถนนมะลิวัลย์ ด้านข้างมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นการลงหุ้นร่วมกันระหว่างนักธุรกิจ และนักการแพทย์ในจังหวัดขอนแก่น โดยมีหุ้นส่วนใหญ่ 2 รายคือ รัชนี อ้วนไตร และโกเมศ ฑีฆธนานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อุดรเจริญศรี (1968) จำกัด เจ้าของกิจการจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ และวอลโว่ ถือหุ้นคนละ 35%

หลังเปิดให้บริการได้ไม่ถึง 2 ปี นับจากปี 2538 ต้องประสบปัญหาเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลไม่เป็นไปตามเป้า จนต้องปรับองค์กร เพื่อลดค่าใช้จ่ายทุกด้าน ขณะที่ลูกค้าไปใช้บริการน้อยลง เพราะในจังหวัดขอนแก่นมีโรงพยาบาลเอกชนคู่แข่งอีก 2 ราย คือ โรงพยาบาลขอนแก่นราม และโรงพยาบาลราชพฤกษ์

ผลจากการลอยตัวค่าเงินบาทของรัฐบาล ทำให้โรงพยาบาลประชาเวชต้องมีหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวกว่า 100 ล้านบาท เพราะบริษัทใช้เงินกู้จากแหล่งเงินทุนต่างประเทศ การระดมทุน เพื่อประคองกิจการเกิดขึ้นเป็น ระยะๆ จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของรัชนีในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะเงิน ที่สั่งสมจากกิจการร้านเจ๊รัชมาตลอดกว่า 30 ปี ได้ทุ่ม เพื่อลงโครงการ นี้ไปจำนวนไม่น้อย

ในราวเดือนกันยายน 2540 บริษัทนอร์ธอีสต์เทิร์น ดีเวลลอปเม้นท์ได้ลงประกาศลดทุนจดทะเบียนจำนวน 60 ล้านบาท ในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 4 ฉบับรวด ลงนามโดยโกเมศ ในฐานะประธานกรรมการ และรัชนี ในฐานะกรรมการบริหารบริษัท ระบุว่าการลดทุนจดทะเบียนดังกล่าวเป็นส่วนของหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 6 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 60 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการบริหารงานภายในบริษัทฯ

ปัญหาหนี้สิน ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจโรงพยาบาลประชาเวช สร้างความสะเทือนใจให้กับรัชนีเป็นอย่างมาก กระทั่งมีข่าวลือในสังคมคนขอนแก่นว่ารัชนีคิดมากจนถึงกับคิดฆ่าตัวตาย เพราะเป็นธุรกิจนอกไลน์ ที่ไม่ถนัด และเป็นเงินก้อนใหญ่ ที่ทุ่มลงไปเป็นครั้งแรกของตระกูล "อ้วนไตร" ต้องจมอยู่กับโรงพยาบาลแห่งนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us