|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บล.ซิกโก้ พร้อมเปิดทางพันธมิตรต่างชาติเจรจาร่วมทำธุรกิจ ตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ปีหน้า 2.5% ผู้บริหารชี้ทางรอดของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่จำนวนนักลงทุน ระบุหากไม่เพิ่มจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 3 แสนบัญชี หรือ 0.4% ของประชากรทั้งประเทศไม่ว่าจะโบรกฯเล็กหรือโบรกฯใหญ่ตายหมด
นายศิริพงษ์ สุทธาโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเป้าส่วนแบ่งการตลาด หรือ มาร์เกตแชร์ของบริษัทว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้ารักษามาร์เกตแชร์ให้อยู่ในระดับประมาณ 2.5% ซึ่งใกล้เคียงกับปีนี้ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจะพบว่ามาร์เกตแชร์ของบริษัทไม่ปรับขึ้นเลยแต่กลับปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องจากลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนในประเทศซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ค่อยมีบทบาทต่อตลาดหุ้นไทยเนื่องจากนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามีบทบาทต่อตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก บริษัทหลักทรัพย์ใดที่มีนักลงทุนต่างชาติในสัดส่วนที่สูงก็จะได้รับผลดี ขณะนี้บริษัทหลักทรัพย์ใดที่มีฐานลูกค้าเป็นนักลงทุนในประเทศก็ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ แม้ว่ามาร์เกตแชร์ของบริษัทจะปรับตัวลดลงแต่พบว่าสัดส่วนของนักลงทุนของบริษัทโดยเฉพาะสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่รายย่อยประมาณ 90% และนักลงทุนสถาบันประมาณ 10%
สำหรับการปรับตัวเพื่อรองรับการเพิ่มเสรีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์และเสรีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์บริษัทได้มีการลดต้นทุนในเรื่องต่างๆค่อนข้างมากเพื่อเป็นการปรับตัว เช่น การปิดสาขาที่ไม่สร้างกำไรให้กับบริษัทจำนวน 4 สาขารวมถึงการบริหารต้นทุนในเรื่องอื่นๆ
นอกจากนี้บริษัทพร้อมเปิดทางในการเข้ามาเจรจาของพันธมิตรทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเพื่อเข้ามาสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทอย่างเต็มที่
"เราเปิดรับบริษัทที่สนใจจะเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรของบริษัทอย่างเต็มที่ เพื่อเข้ามาช่วยสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันให้กับบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทวางตัวเองเป็นบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศ มีลูกค้าเป็นนักลงทุนในประเทศเป็นส่วนใหญ่ การได้พันธมิตรจากต่างประเทศเข้ามาเสริมก็เป็นเรื่องที่ดี"นายศิริพงษ์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ซิกโก้ กล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะรองรับการเปิดเสรีในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ คือ ฐานนักลงทุนที่จะต้องมีมากกว่าในปัจจุบัน โดยปัจจุบันตลาดทุนไทยมีนักลงทุนอยู่เพียง 3 แสนบัญชีเมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศอยู่ที่ 0.45 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมาโดยหากก่อนเปิดเสรีจำนวนนักลงทุนไม่เพิ่มไม่ว่าจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่หรือบริษัทหลักทรัพย์ขนาดเล็กไม่น่าจะอยู่รอดในสภาวการณ์เช่นนั้นได้
ทั้งนี้ ในเรื่องการสร้างฐานนักลงทุนหน้าใหม่ให้กับตลาดหุ้น บล.ซิกโก้ คิดในเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวรูปแบบการออมในลักษณะการลงทุนขึ้นในชื่อว่า Easy Wealth Builder ซึ่งได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องแล้วประมาณ 4 ปีแต่เพิ่งได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่าน
ในส่วนของรูปแบบการออมดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นการลงทุนที่ต่อเนื่องเพื่อเป็นการสร้างวินัยในการลงทุนให้กับนักลงทุน โดยบริษัทจะให้นักลงทุนลงทุนแบบทุกเดือนในจำนวนที่เท่ากันในอัตราขั้นต่ำ 1,000 บาท ซึ่งนักลงทุนจะสามารถเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนได้จากหลักทรัพย์ที่อยู่ใน SET50 ซึ่งถือว่าเป็นหลักทรัพย์ที่มีมาร์เกตแคปสูง อัตราการเติบโตดี มีสภาพคล่อง
สำหรับ การออมในลักษณะดังกล่าวบริษัทถือว่านอกเหนือจากการสร้างวินัยให้กับนักลงทุนที่สนใจจะออมผ่านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วการสร้างความมั่นใจโดยใช้หลักการที่จะไม่ให้นักลงทุนต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่รุนแรงจนทำให้เกิดความกลัวต่อการลงทุนจนไม่กล้าไม่ที่จะเข้ามาลงทุนอีกเป็นการให้นักลงทุนรับรู้ถึงความเสี่ยงและโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนแบบค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการออกรูปแบบการออมดังกล่าวถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนค่อนข้างดีโดยเกือบ 2 เดือนมีนักลงทุนเปิดบัญชีกับบริษัทเพิ่ม 120 บัญชีขณะที่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมามีนักลงทุนเปิดบัญชีประมาณ1,100 บัญชี ซึ่งบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าในปีหน้าจะมีนักลงทุนเปิดบัญชีเพิ่มเป็น 3 พันบัญชี โดยการลงทุนในลักษณะดังกล่าวสิ่งที่ได้ตามมาคือบัญชีที่เป็นบัญชีที่ซื้อขายแบบสม่ำเสมอทั้ง 100% ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
|
|
|
|
|