Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 ธันวาคม 2549
บี-ควิกเปลี่ยนคู่หูผนึกมารูเบนิอัดฉีด50ล้านลุยตลาดมาเลเซีย             
 


   
search resources

Automotive
บี-ควิก, บจก.




บี-ควิก เตรียมโกอินเตอร์ลุยตลาดมาเลเซียกลางปีหน้า หลังเปลี่ยนพันธมิตรใหม่เป็นมารูเบนิ พร้อมลงทุนเพิ่มอีก 50ล้านบาทขยาย 30สาขาใน 3ปี มั่นใจได้เปรียบในด้านบริการครบวงจร เผยผลประกอบการปี 49 โตสวนกระแสตลาดรวม ตั้งเป้าปีหน้าขยายอีก 10สาขาหวังโตอีก 30%

นายเฮงก์ เจ คิกส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์บริการรถยนต์บี-ควิก กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาบริษัท มารูเบนิ จำกัด ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบี-ควิก โดยเข้ามาถือหุ้นแทนในส่วนของบริษัท Thai Strategic Capital จำกัด และ Prudential เนื่องจากบริษัทมีแผนจะลงทุนในระยะยาว โดยการขยายตลาดไปยังต่างประเทศซึ่งจะเริ่มที่ภูมิภาคเอเชียก่อน แต่ทางผู้ถือหุ้นรายเดิมยังไม่มีทีท่าเห็นด้วยจึงได้มีนโยบายที่จะหาผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่จะมาลงทุน

"ทางบริษัทไม่ต้องการให้บี-ควิกผูกขาดกับบริษัทใดเพียงที่เดียว เพราะจะทำให้ขาดอิสระในการดำเนินงาน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็คิดว่ามีความพร้อมที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และมารูเบนิเป็นบริษัทกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้แผนการขยายสาขาในตลาดเอเชียของบี-ควิก สามารถดำเนินงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการเข้าร่วมหุ้นครั้งนี้จะไม่กระทบต่อการบริหารการปฏิบัติงานและแนวนโยบายของบริษัทแต่อย่างใดเพราะสิทธิ์ในการบริหารทั้งหมดจะอยู่ที่บี-ควิก"

สำหรับการขยายสาขาไปยังประเทศมาเลเซียนั้น นายเฮงก์ กล่าวว่า มารูเบนิจะช่วยในเรื่องของสัดส่วนการถือหุ้นในตลาดต่างประเทศเพราะมารูเบนิมีสาขาอยู่ในมาเลเซียจึงทำให้ได้เปรียบในหลายด้านทั้งยังช่วยเสริมในด้านของเงินทุนด้วย ซึ่งในขณะนี้ได้มีการวางแผนในเรื่องนโยบายอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนเมษายนนี้ และจะเริ่มดำเนินการขยายสาขาในมาเลเซียได้ช่วงเดือนกรกฎาคม โดยใน 3ปีแรกจะทำทั้งหมด 30สาขา ใช้เงินลงทุนประมาณ 15-17 ล้านบาทต่อสาขา

"จะเห็นว่าในมาเลเซียธุรกิจนี้ไม่มีคู่แข่งที่แท้จริงโดยตรง เพราะในศูนย์บริการประกอบด้วยบริการหลายกลุ่ม ถ้าจะวัดกันต้องแยกออกเป็นกลุ่ม เช่น บริการยาง น้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก เป็นต้น ดังนั้นทำให้หาคู่แข่งโดยตรง และเจ้าตลาดที่แท้จริงค่อนข้างยาก ซึ่งบี-ควิกจึงได้เอาจุดเด่นของศูนย์บริการเราที่มีการจำหน่ายยางหลากหลายแบรนด์ รวมถึงผ้าเบรก แอร์ แบตเตอรี่ และความชำนาญทางด้านช่วงล่าง อีกทั้งในมาเลเซียเป็นตลาดที่มีสัดส่วนรถยนต์นั่งกว่า 95% ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา"

นางสาวบุศรารัตน์ อัสสรัตนกุล ผู้บริหารสูงสุดฝ่าปฏิบัติการ กล่าวถึงภาพรวมของตลาดศูนย์บริการรถยนต์ว่าตลาดในนี้ไม่กระเตื้องขึ้นตามที่ได้ประเมินไว้แต่แรก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทำให้ผู้ใช้บริการชะลอการใช่จ่ายต่างๆ โดยในปี 2549 บี-ควิกมีคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรวมที่ประมาณ 1,000ล้านบาท ส่วนผลประกอบการในปีนี้มีการเติบโตกว่า 30% ซึ่งสวนทางกับตลาดรวมที่ตกลง 5%

ทางด้านแผนการตลาดในปี 2550 นั้นจะมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของการขยายอีก 10 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 5สาขา และต่างจังหวัดในภาคตะวันออกอีก 5สาขา จากปัจจุบันมีทั้งหมด 45สาขาด้วยกัน ซึ่งจะทำให้มีการเติบโตขึ้นอีก 10-30 % โดยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดยางรถยนต์ในกรุงเทพฯประมาณ 15% และมียอดขายจะไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us