กลุ่มธุรกิจ “ฮอนด้า” ประกาศย้ายหน่วยธุรกิจสำคัญจากญี่ปุ่นมาไทย ทั้งวางแผนการผลิต การจัดซื้อ วิจัยและพัฒนา และเพิ่มการลงทุนตั้งแต่ 2548 จนถึงปีหน้า รวมมูลค่าสูงถึง 8.7 พันล้านบาท เพื่อรองรับใช้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ผลักดันยอดส่งออกจากไทยปีหน้าทะลุแสนล้านบาท
นายทัตสึฮิโร่ โอยาม่า ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เปิดเผยว่า ประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ของกลุ่มฮอนด้า ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ รวมถึงเป็นศูนย์กลางธุรกิจของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ครอบคลุมเรื่องการผลิต การจัดซื้อ พัฒนาและวิจัย โดยรวมเงินลงทุนในไทยนับตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันสูงถึง 8,700 ล้านบาท
“ตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา และต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ฮอนด้าได้มีการย้ายหน่วยงานสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนา การวางแผนการผิต และการบริหารงานจัดซื้อมาอยู่ในไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการยกระดับมาตรฐานด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ การลดต้นทุน และการจัดส่งสินค้า (QCD) รองรับการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพของภูมิภาคนี้ โดยมีประเทศไทยเป็นผู้นำในการดำเนินงาน”
ทั้งนี้ในเดือนเมษายนปีหน้า ฮอนด้าจะย้ายฐานการผลิตแกนลูกเบี้ยว เพลาข้อเหวียง และก้านลูกสูบ จากประเทศญี่ปุ่นมาประเทศไทย โดยมีงบประมาณลงทุนรวม 1,154 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตถึง 240,000 ล้านต่อปี รวมการส่งออกไปยังทุกประเทศในภูมิภาคเอเชีย และโอเชีย
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังเตรียมเปิดฮอนด้ายังได้เตรียมเปิดดำเนินการ บริษัท เอเชี่ยน พาร์ท แมนูแฟคเจอริ่ง อย่างเป็นทางการเพื่อผลิตอะไหล่ตัวถังของรถยนต์สำหรับส่งออกไปจำหน่ายยังฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ยุโรป และญี่ปุ่น เพื่อทำการประกอบรถยนต์รุ่นที่มีจำหน่ายทั่วโลก อาทิ แจ๊ส และ ซีอาร์-วี โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1,279 ล้านบาท
นายโอยาม่ากล่าวว่า ไม่เพียงเท่านี้ฮอนด้ายังมีแผนที่จะขยายการดำเนินงาน ด้านการวิจัยและพัฒนารถยนต์ในประเทศไทยอีกสองปีข้างหน้า โดยใช้งบประมาณในการลงทุน 900 ซึ่งคาดว่าจะสามารถพัฒนารถจักรยานยนต์เพื่อจำหน่ายในภูมิภาคได้ถึง 50 รุ่น หรือเพิ่มขึ้น 80 % จากปี 2547
“โดยในส่วนของธุรกิจรถยนต์ ฮอนด้ามีแผนที่จะย้ายหน่วยงานด้านการวางแผนการผลิต และการจัดซื้อจากประเทศญี่ปุ่น มายังประเทศไทยในราวเดือนเมษายนปี 2550 ซึ่งจะช่วยเสริมให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาผลิตภัณใหม่ และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ของฮอนด้าที่ผลิตในภูมิภาคนี้”
จากการที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของกลุ่มฮอนด้า ทำให้การส่งออกจากไทยมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2549 นี้ มูลค่าการส่งออกของกลุ่มฮอนด้ามีสูงถึง 85,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 30% สำหรับปีหน้ากลุ่มฮอนด้าตั้งเป้าที่จะส่งผลเพิ่มขึ้นอีก 17% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท
โดยในส่วนของรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) ในปีนี้ฮอนด้าคาดว่ายอดการส่งออก จากประเทศไทยจะสูงถึง 59,000 คัน เพิ่มขึ้น 31% จากปีที่แล้ว และในปีหน้าฮอนด้าตั้งเป้าการส่งออกที่ 70,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 19% จากปี 2549 ทั้งนี้ปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้ยอดส่งออกรยนต์จากประเทศไทยเพิ่มขึ้น มาจากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างและออสเตรเลีย ซึ่งทำให้ปีนี้ฮอนด้าสามารถส่งออกรถยนต์แจ๊ส และซีอาร์-วี ไปยังออสเตรเลียเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นายโอยาม่ากล่าวว่า ส่วนตลาดในประเทศฮอนด้าคาดปีนี้จะสามารถทำยอดจำหน่ายได้ 67,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15% เนื่องจากได้มีรถยนต์โมเดลใหม่อย่าง ฮอนด้า ซีวิค และฮอนด้า ซีอาร์-วี ทำตลาด ทำให้เติบโตมากกว่าตลาดรถยนต์โดยรวมที่ลดลงประมาณ 4% หรือทั้งตลาด 670,000 คัน โดยปีหน้าฮอนด้าตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรถยนต์ประมาณ 70,000 คัน เติบโตจากปีนี้เพียงเล็กน้อย เพราะสภาพตลาดยังจะไม่เติบโตมากนัก
สำหรับตลาดรถยนต์จักรยานยนต์ ฮอนด้าน่าจะปิดยอดขายในประเทศปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1.34 ล้านคัน เติบโตจากปีที่แล้ว 4% โดยมีสัดส่วนยอดขาย 65% ทั้งนี้นับว่าเป็นยอดขายที่เติบโตกว่าตลาดเช่นกัน ที่คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วประมาณ 2 แสนคัน โดยปีหน้าฮอนด้าตั้งเป้ายอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศ 1.4 ล้านคัน เติบโตจากปีนี้ไม่มากนัก เพราะคาดว่าตลาดโดยรวมน่าจะใกล้เคียงกับปีนี้
|