|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร ประกาศแนวรบปีหน้า อัดฉีด 300 ล้านบาท โฟกัสยำยำ จัมโบ้ – ช้างน้อยเรือธง เปิดศึกโค้งสุดท้ายรีลอนช์ ยำยำ จัมโบ้ ครั้งแรกรอบ 30 ปี ยกเครื่องภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ดึงเป้ย-ปานวาดตอกย้ำความเซ็กซี่สื่อคอนเซปต์ “เผ็ดเปรี้ยว รสชาติจัดจ้าน” ต่อยอดภาพลักษณ์เจ้าตลาดบะหมี่ฯ ซองโต ปีหน้ากวาดแชร์เพิ่มจาก 22% เป็น 23.5%
นายซาโตรุ นาคามูระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีหน้านี้ บริษัทจะเน้นสินค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ ยำยำ จัมโบ้ และยำยำช้างน้อย จากปัจจุบันมีสินค้า 5 กลุ่ม ได้แก่ ยำยำ มิกซ์ทูแมกซ์, ยำยำ พรีเมียมโบลว์ และยำยำ คัพ โดยได้ทุ่มงบการตลาด 300 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีนี้ ล่าสุดในช่วงโค้งสุดท้าย บริษัทได้รีลอนช์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ ตระกูลต้มยำ ครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยปรับปรุงภาพลักษณ์และบุคลิกของแบรนด์ให้มีความเซ็กซี่ เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซปต์”เผ็ดเปรี้ยว รสชาติจัดจ้าน”
ทั้งนี้เป็นเพราะจากการศึกษาพบว่า ภาพลักษณ์ของแบรนด์ยำยำเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองใหญ่หรือให้ในปริมาณที่มากกว่าบะหมี่แบรนด์อื่นๆ แต่บริษัทต้องการตอกย้ำในเรื่องของรสชาติด้วย โดยการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้บริษัทยังได้ปรับปรุงรสชาติใหม่ ด้วยเครื่องปรุงต้มยำที่สดใหม่ อีกทั้งยังได้ดึง “เป้ย-ปานวาด” ขึ้นแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้ใช้พรีเซ็นเตอร์ อาทิ พลอย-ไลลา เชียร์-ฑิฆัมพร และเจน-ชมพูนุช พร้อมกันนี้ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและกลุ่มคนวัยเริ่มทำงาน
การที่บริษัทเลือกปรับยำยำ ตระกูลต้มยำ โดยเปิดตัวด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ รสต้มยำกุ้ง ต้มยำกุ้งน้ำข้น และรสต้มยำหมูสับ เป็นเพราะตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 หมื่นล้านบาท รสชาติต้มยำเป็นตลาดใหญ่ที่สุด โดยมีสัดส่วน 50% ของตลาดรวม ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่ง 5% และการปรับในครั้งนี้ตั้งเป้ายอดขายโต 15% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนการเลือกเป้ย –ปานวาด มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะจากการวิจัยกลุ่มเป้าหมาย วัยรุ่น นักศึกษา ภาพลักษณ์ที่สื่อถึงความทันสมัย เซ็กซี่ ร้อนแรง พรีเซ็นเตอร์คนนี้สะท้อนผลิตภัณฑ์ได้ดีที่สุด
สำหรับการรีลอนช์ยำยำตระกูลต้มยำ บริษัทใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท แบ่งเป็น งบอะโบฟเดอะไลน์ 70 % โดยได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาด้วยกัน 3 เรื่อง เริ่มออกอากาศวันที่ 20 ธันวาคม นี้ ส่วนงบบีโลว์เดอะไลน์ 30 % อาทิ การแจกผลิตภัณฑ์และจัดบูธชิมตามสถาบันศึกษา โรงเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ยังจับมือร่วมกับพันธมิตร เช่น บัตรเครดิตและปั๊มน้ำมัน จัดโปรโมชันเพื่อกระจายสินค้าสู่สินค้าผู้บริโภคทั่วถึง ทั้งนี้หลังจากการรีลอนช์คาดว่าปีหน้านี้ ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมของยำยำ จัมโบ้ เพิ่มเป็น 23.5% จากปัจจุบันมี 22 % แบ่งเป็น ยำยำ 18% ช้างน้อย 4%
ระบุเศรษฐกิจพ่นพิษตลาดโต5%ปีหน้า
นายนาคามูระ กล่าวต่อถึงภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 8 % ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังไม่ฟื้นตัว อีกทั้งกำลังการซื้อของผู้บริโภคยังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยจึงมีความระมัดระวัง ขณะที่ปีหน้านี้คาดว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีอัตราการเติบโต 5 % ทำให้ตลาดจะมีการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยบริษัทได้เตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร
สำหรับผลประกอบการปีหน้าบริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10 % จากปีนี้ (รอบบัญชีเดือนเมษายน 49 – มีนาคม 50) บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการส่งออก 20% และภายในประเทศ 80% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดในปีนี้ยำยำมี 22 % เพิ่มขึ้น 3-4 % โดยมาจากการพัฒนารสยำยำ จัมโบ้ หมูสับ ซึ่งได้ปรับปรุงรสชาติไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มากกว่าตลาดโดยรวมโต
|
|
|
|
|