โตชิบาชูกรีนอินโนเวชั่น พร้อมทุ่มเม็ดเงินกว่า 400 ล้านบาท ลุยตลาดปีหน้า เน้นสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่า 150 รายการลงศึก ล่าสุดหว่านเม็ดเงินไปแล้วกว่า100 ล้านบาท ปรับปรุงการผลิตหลอดไฟ เพื่อรองรับมาตรฐาน RoHS มั่นใจปีหน้ารายได้แตะ 5,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 12%

นายฮิเดโนริ มัสสุอิ ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2550 ว่าบริษัทฯยังคงเน้นแผนการทำธุรกิจเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา แต่จะเน้นในเรื่องของกรีนโปรดักส์ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่บริษัทฯเน้นอยู่ก่อนแล้ว แต่ในปีหน้าจะเด่นชัดมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านโลโก้ ที-จัง และแนวความคิดของนวัตกรรมสีเขียวเพื่อโลกสีขาว โดยบริษัทฯมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้มาตรฐาน RoHS (Restriction of Hazardous Substances) ที่ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นสารพิษ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“จะเห็นได้ว่าบริษัทฯได้มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งในส่วนของซัปพลายเออร์หรือคู่ค้าที่ป้อนวัตถุดิบให้นั้น จะต้องมีวัตถุดิบหรือวัสดุตามที่บริษัทฯต้องการ หากไม่สามารถจัดหารให้ได้ทางบริษัทฯก็ได้เปลี่ยนไปหาคู่ค้ารายใหม่แทน ซึ่งจากการปรับปรุงการผลิตดังกล่าว ทำให้สินค้าของโตชิบามีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงจำหน่ายในราคาเดิม โดยที่ผ่านมามีการปรับราคาสินค้าไปเพียงตัวเดียว คือ ตู้เย็น เนื่องจากต้นทุนอย่าง ทองแดง ที่เพิ่มสูงขึ้น มิใช่เกิดจากการปรับปรุงการผลิตแต่อย่างไร”

อย่างไรก็ตามการปรับปรุงการผลิตในแต่หมดสินค้านั้น จะเป็นการปรับปรุงไปเรื่อยๆ เพื่อให้รองรับมาตรฐานใหม่ๆอยู่เสมอ จึงไม่สามารถบอกรายละเอียดถึงต้นทุนได้ เพราะบางหมวดสินค้ามิได้ใช้การลงทุนใหม่ๆเพิ่มขึ้นเลย เพียงแต่ปรับการใช้วัสดุบางตัวเท่านั้น แต่ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ หมวดหลอดไฟ ที่ทางบริษัทฯได้จัดงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท สำหรับปรับปรุงการผลิตใหม่ครั้งใหญ่ เปลี่ยนแปลงการผลิตจากสารบางตัวที่ทำลายสิ่งแวดล้อม มาใช้สารที่ไม่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อมแทน

ล่าสุดบริษัทฯวางงบการตลาดไว้กว่า 400 ล้นบาท สำหรับการทำตลาดตลอดทั้งปีให้กับทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ โดยในปีหน้าบริษัทฯได้เตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 150 รายการ ที่เป็นกรีนโปรดักส์ทั้งหมดสำหรับทำตลาดในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ที่จะมีตู้เย็นขนาด 6 ประตูที่ใช้ อินเวอร์เตอร์

คอมเพรสเซอร์ ช่วยประหยัดไฟ, กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัวดิจิตอล คิตเช่นแอนด์ลิฟวิ่ง เช่น หม้อหุงข้าวที่ให้อุณหภูมิคงที่ ช่วยประหยัดพลังงาน, กลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง เช่น เครื่องเล่นดีวีดี ที่ใช้วัสดุในการรีไซเคิลได้ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี หรือ ไอที ที่ใช้วัสดุในการทำเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ส่วนกลยุทธ์ทางด้านช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น บริษัทฯจะมีการเพิ่มจำนวน ชอป โตชิบา ตามจุดสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการจัดร้านให้แสดงถึง โซลูชั่น ที่มาจากการต่อพ่วงอุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน โดยจะจัดรูปแบบร้านออกเป็นระดับ แพลตตินัม, ซิลเวอร์ และ โกลด์ อีกทางหนึ่งด้วย

จากแผนการดำเนินธุรกิจที่วางไว้ในปีหน้า คาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 12% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยมาจากกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน 55% หมวดภาพและเสียง 10% และหมวดคอมพิวเตอร์หรือไอที อีก 35%

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น คาดว่าจะมีการเติบโตเพียง 5-8% ขณะที่หมวดสินค้าไอที ที่กำลังมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น จะเห็นได้ว่า ในปีนี้ รายได้บริษัทฯจากกลุ่มไอทีมีเพียง 25% เท่านั้น แต่ในปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าสูงถึง 35% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวนอกจากจะเกิดจากความต้องการในตลาดที่เพิ่งสูงขึ้นแล้ว ยังเป็นการแย่งแชร์มาจากกลุ่มหมวดภาพและเสียง และหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือยอย่างละ 5% เนื่องจากทั้ง 2 หมวด ถึงแม้จะมีอัตราการเติบโตเป็นไปในทิศทางที่ดีอยู่ แต่ในเรื่องราคานั้น มีการจำหน่ายที่ถูกลงนั้นเอง