|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์กรุงศรีเผยความคืบหน้าร่วมทุนจีอี อยู่ระหว่างการปรับองค์กรคาดมกราคมปีหน้าสรุปเป้าหมายการดำเนินธุรกิจได้ ระบุจีอีจะเข้ามาคุมด้านรายย่อยทั้งหมด พร้อมส่งกรรมการนั่ง 4 ตำแหน่ง ขณะที่กรุงศรีฯยังยึดฐานรายใหญ่เหมือนเดิม "ชาลอต"เตือนอย่างหวังเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ รอครึ่งหลังปี50เดินหน้าลุยเต็มสูบ
นางชาลอต โทณวนิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงความคืบหน้าในการร่วมทุนระหว่างธนาคารกับจีอี แคปปิตอล แปซิฟิก ว่า ขณะนี้ทางธนาคารยังคงดำเนินงานและใช้ประมาณการทุกอย่างเหมือนเดิม เนื่องจากทางทีมงานและผู้บริหารของจีอีจะเข้ามาทำงานในช่วงเดือนมกราคม 2550 ดังนั้น เรื่องแผนงานของปีหน้างบประมาณต่างๆ รวมถึงเป้าหมายการขยายสินเชื่อ จะสรุปได้ในเดือนมกราคมปีหน้า รวมถึงการใช้สีสัญลักษณ์ขององค์กรก็ยังใช้สีเดิมเช่นกัน
ส่วนเรื่องโครงสร้างองค์กรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในรายละเอียด เนื่องจากทั้ง 2 องค์กรมีชื่อตำแหน่งที่แตกต่างกัน ทางฝ่ายทรัพยากรบุคคลกำลังหาชื่อตำแหน่งที่เป็นกลางระหว่าง 2 องค์กรนี้อยู่ ส่วนรายชื่อผู้บริหารบุคคลที่จะเข้ามาอยู่ในองค์กรขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่ตามแผนงานคร่าวๆทางจีอี จะส่งบุคลากรเข้าดูแลทางด้านลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก โดยจะตำแหน่งผู้บริหารทางจีอีเข้ามา 5 ตำแหน่ง บุคคลากรที่จะเพิ่มเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ารายย่อย ด้านลูกค้ารายใหญ่ก็จะให้ธนาคารดูแลเหมือนเดิม ซึ่งเป้าสินเชื่อจะแยกตามกลุ่ม โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ รายย่อย เอสเอ็มอี และรายใหญ่
ด้านโครงสร้างคณะกรรมการบริหารของธนาคารจำนวน 11 คนนั้น ทางจีอีจะส่งกรรมการเข้ามา 4 ท่าน ซึ่งระบุตัวบุคคลแล้ว 2 คน คือ นายพรสนอง ตู้จินดากับนางพรรณพร คงยิ่งยง และเป็นส่วนของธนาคารกรุงศรีอยุธยาอีก 4 ท่าน ส่วนที่เหลืออีก 3 ตำแหน่งจะเป็นคณะกรรมการอิสระ
นางชาลอตกล่าวว่า จากโครงสร้างต่างๆที่ปรับเปลี่ยนไปพอสมควร ในส่วนขององค์กรเองก็คงจะต้องมีการปรับให้มากตามเช่นกัน เพื่อรองรับการทำงานที่มากขึ้นในอนาคต
ส่วนแนวทางการออกผลิตภัณฑ์ของธนาคารก็ยังเน้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับได้ทั้งลูกค้ารายใหม่และรายเก่าได้ โดยด้านสินเชื่อจะเน้นสินเชื่อที่อยู่อาศัย ขยายสินเชื่อบุคคล ซึ่งในส่วนนี้ธนาคารมีลูกค้าที่มีคุณภาพอยู่แล้ว นอกจากนี้ สินเชื่อดังกล่าวเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพจึงน่าจะสามารถเติบโตได้อยู่ โดยธนาคารจะเน้นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะเหมาะกับลูกค้าทุกกลุ่ม ถือเป็นการสร้างความสะดวกในการใช้ผลิตภัณฑ์
ขณะที่งานด้านการตลาดในปีหน้า ในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ ธนาคารจะร่วมกับนธมิตรที่เคยร่วมงานมาต่อยอดธุรกิจต่อไป พร้อมทั้งสร้างฐานลูกค้าให้มีหลากหลายกลุ่มมากขึ้น เพื่อให้มีศักยภาพมากขึ้นในการเสนอผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น
"อย่าคาดหวังในช่วง 3-6 เดือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย หรือผลการดำเนินงานจะดีมากๆ เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงของการปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกัน มีการวางแผนร่วมกัน ดังนั้น จึงเป็นช่วงที่ต้องเรียนรู้ร่วมกัน หลังจาก 6 เดือนไปแล้วจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในการร่วมมือกันระหว่างจีอีกับธนาคาร"ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าว
|
|
|
|
|