Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 ธันวาคม 2549
ซีมิโก้เปิดทางพันธมิตรร่วมธุรกิจหวังดึงทุนนอกรับมือเปิดเสรีการเงิน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้

   
search resources

ซีมิโก้, บล.
Funds
เรืองวิทย์ ดุษฎีสุรพงษ์




บล.ซีมิโก้ เปิดทางดึงพันธมิตรต่างประเทศร่วมทำธุรกิจรองรับการเปิดเสรีการเงินในอนาคต พร้อมเปิด 2 บริษัทใหม่ปีหน้า "เดลิเวอร์ทีฟ-บลจ." หวังกระจายรายได้ ขณะที่ตั้งเป้ามาร์เกตแชร์เพิ่มจาก 3.5% เป็น 4% ส่วนมาร์เกตแชร์เทรดหุ้นออนไลน์เพิ่มจาก 5.5% เป็น 10% หลังพัฒนาระบบซื้อขายใหม่ ZNET ชูฟังก์ชั่นที่ตอบสนองความต้องการนักลงทุนเต็มที่คาดเพิ่มจำนวนนักลงทุนได้ 30-40%

นายเรืองวิทย์ ดุษฎีสุรพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO กล่าวว่า บริษัทพร้อมเปิดทางในเจรจาหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจรองรับการเปิดเสรีทางการเงิน ทั้งในส่วนของใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (ไลเซนต์) และเสรีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (คอมมิชชัน) โดยที่ผ่านมาได้บริษัทได้พูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรต่างชาติแล้วประมาณ 3-4 ราย

"ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้มีการตกลงในรายละเอียดที่ชัดเจนว่า จะมีการเข้ามาร่วมทุนหรือร่วมทำธุรกิจในรูปแบบใด แต่สิ่งที่บริษัทต้องการจากการดึงพันธมิตรเข้ามา คือ การเพิ่มช่องทางในการเพิ่มสัดส่วนของนักลงทุนต่างประเทศให้มากขึ้น"

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมที่จะหาช่องทางในการเพิ่มรายได้ในส่วนต่างๆ มากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากรายได้หลักจากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้จากงานด้านวาณิชธนกิจ โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 75% และรายได้จากงานวาณิชธนกิจประมาณ 25% ซึ่งบริษัทหลังว่าในอนาคตสัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนเป็นรายได้จากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 35-40% รายได้จากงานวาณิชธนกิจ 35-40% ส่วนที่เหลือเป็นงานด้านอื่นๆ

"เราถือว่าเราเป็นโบรกเกอร์คนไทยที่มีความเป็นอิสระ ซึ่งยอมรับการที่บริษัทบางแห่งมีแบงก์เป็นผู้ถือหุ้น หรือมีนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ถือใหญ่ได้เปรียบในเรื่องการแข่งขัน แต่เราได้เตรียมความพร้อมมาโดยตลอด และพยายามสร้างจุดแข็งของบริษัทขึ้นมาเอง ซึ่งอาจจะมีการดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนธุรกิจ แต่ยังไม่ได้สรุปในตอนนี้ โดยสิ่งที่เราต้องการจากพันธมิตรทางธุรกิจ คือ การเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในส่วนของนักลงทุนต่างชาติ" นายเรืองวิทย์ กล่าว

สำหรับช่องทางในการเพิ่มรายได้ของบริษัทในปีหน้าบริษัทเตรียมจะเปิดบริษัทใหม่ 2 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทซีมิโก้ เดลิเวอร์ทีฟ เพื่อเพิ่มช่องทางในการให้บริการสินค้าประเภทตรสารหนี้นอกเหนือจากสินค้าจากตลาดอนุพันธ์ (TFEX) โดยจะมีการออกตราสารหนี้ตามความต้องการของนักลงทุน ซึ่งจะซื้อขายนอกตลาด (OTC) โดยบริษัทดังกล่าวจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรจากต่างประเทศ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค. ปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีมิโก้ ซึ่งบล.ซีมิโก้ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดยขณะนี้ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้วคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาส1/50

นายเรืองวิทย์ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าในส่วนของส่วนแบ่งการตลาด หรือมาร์เกตแชร์ ในปีหน้าอยู่ที่ 4.5% จากปีนี้ซึ่งอยู่ทีประมาณ 4% ขณะที่มาร์เกตแชร์การซื้อขายหุ้นผ่านระบบอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.5% โดยปัจจุบันบริษัทมีนักลงทุนที่ซื้อขายอย่างสม่ำเสมอประมาณ 5 หมื่นบัญชี และซื้อขายอย่างสม่ำเสมอผ่านระบบอินเตอร์ประมาณ 10,000 บัญชี

ทั้งนี้ งานทางด้านวาณิชธนกิจของบริษัทในปีหน้าขณะนี้บริษัทมีงานที่อยู่ในมือประมาณ 20 ดีล ซึ่งประกอบไปด้วยงานทางด้านการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ งานในการควบรวมกิจการ ฯลฯ

ในส่วนของการสร้างฐานนักลงทุนใหม่ๆของบริษัท บริษัทได้พัฒนาระบบการซื้อขายหุ้นออนไลน์โดยได้ลงทุนประมาณ 25 ล้านบาทในการพัฒนาระบบที่เรียกว่า ZNET โดยเพิ่มควาพร้อมและฟังก์ชั่นต่างๆที่จะตอบสนองต่อความต้องการให้นักลงทุนมากขึ้นกว่าระบบในปัจจุบัน โดยสิ่งที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การเพิ่มระบบกรองข้อมูล (Data Filtering) เพื่อเพิ่มความเร็วในส่วนของการรับข้อมูลและการส่งคำสั่งต่างๆ


นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมเพื่อการตั้งระบบเตือนในกรณีที่ราคาอยู่ในระดับที่นักลงทุนกำหนดไว้ รวมถึงข้อมูลข่าวสารทางการเงินที่นักลงทุนซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทสามารถตรวจสอบได้ทันที และโปรแกรมที่เพิ่มความสะดวกสบายในการส่งคำสั่ง ยากเลิกคำสั่ง ตรวจสอบคำสั่งซื้อขาย เป็นต้น โดยบริษัทหวังว่าการพัฒนาระบบในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าที่ซื้อขายหุ้นออนไลน์เพิ่มขึ้น 30-40% และทำให้บริษัทติด 1 ใน 3 โบรกฯที่มีมาร์เกตแชร์ซื้อขายหุ้นออนไลน์สูงสุด

นายเรืองวิทย์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในตลาดทุนปีหน้ายังถือว่าคาดการณ์ในเรื่องต่างๆได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าการซื้อขาย รวมถึงรายได้ของบริษัท เนื่องจากปัจจัยลบหลายเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนในประเทศยังไม่มีความชัดเจน ทั้งในเรื่องปัญหาทางการเมือง รวมถึงทางด้านเศรษฐกิจ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us