Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 ธันวาคม 2549
TKTเล็งทุ่มงบ80ล.เพิ่มกำลังผลิตหนุนเป้ารายได้ปีหน้าขยายตัว10%             
 


   
search resources

ที. กรุงไทยอุตสาหกรรม, บมจ.
Plastics
จุมพล เตชะไกรศรี




บิ๊ก "ที.กรุงไทย" คาดรายได้ปีหน้าโต 10% หลังรับออเดอร์ลูกค้ารายใหม่ ยอมรับรายได้ปีนี้หดเหลือแค่ 800 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 850-900 ล้านบาท หลังลูกค้าเปลี่ยนระบบการค้าเป็นเพียงการจ้างผลิต เตรียมเงิน 80 ลงทุนปีหน้าขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงสายการผลิต พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขึ้นต้นปี 50 เพิ่มจาก 17% เป็น 20% โปรยยาหอมจ่ายปันผลแน่แม้กำไรสุทธิลดลง

นายจุมพล เตชะไกรศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TKT กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 900 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% จากรายได้ในปีนี้ที่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท โดยปรับลดลงจากเดิมที่บริษัทตั้งเป้าปี 2549 ไว้ที่ 850-900 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าบางรายของบริษัทเปลี่ยนระบบการค้ากับบริษัทเป็นระบบจ้างผลิต เพราะลูกค้ามีการจัดหาวัตถุดิบให้ (Supply Material) ทำให้มีการปรับโครงสร้างราคาต่ำกว่าเดิม

ทั้งนี้ ภายในปีหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้จากจากลูกค้ารายใหม่ซึ่งเป็นลูกค้าธุรกิจยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 3 ราย หรือประมาณ 10-15 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3/2550 รวมทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหม่อีกจำนวน 4-5 ราย ซึ่งยังคงเป็นลูกค้าในส่วนธุรกิจยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยบริษัทคาดว่าจะมีข้อสรุปได้ประมาณไตรมาส 1 หรือไตรมาส 2 ปี 2550 และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ประมาณปี 2551

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทเตรียมแผนที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 80 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตในการสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าให้กับลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น จำนวน 50 ล้านบาท และนำมาลงทุนปรับปรุงธุรกิจสายการผลิตประมาณ 20-30 ล้านบาท โดยเงินลงทุนจะนำมาจากกระแสเงินสด(Cash Flow)และจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน

นายจุมพล กล่าวอีก ว่า บริษัทคาดว่ากำไรขั้นต้น(Gross Margin) ของบริษัทในปีหน้าจะอยู่ที่ 20%เพิ่มขึ้นจากระดับ 17% ในปีนี้ เนื่องจากการบริหารงานและการจัดการระบบคลังสินค้าของบริษัทดีขึ้นทำให้ปริมาณของเสียในส่วนของวัตถุดิบลดลงโดยปัจจุบันวัตถุดินที่เสียอยู่ทีประมาณ 8%

สำหรับการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงตลอดปีที่ผ่านมา ไม่ถือว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท เนื่องจากบริษัทไม่ได้ส่งออกโดยตรงเนื่องจากการซื้อขายสินค้าของบริษัทกับลูกค้าอยู่ในรูปของเงินบาททั้งหมดจึงถือได้ว่าผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวไม่มีนัยต่อบริษัท

ในส่วนของนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทในงวดสิ้นปี 2549 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ เมื่อเทียบกับปี2548บริษัทจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 0.10บาทต่อหุ้น โดยในงวด 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.12 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีกำไรสุทธิในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 41.54 ล้านบาท

"แม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลง แต่เรายืนยันว่าจะสามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นในงวดสิ้นปีนี้ ได้อย่างแน่นอน เพราะว่าเรามีสภาพคล่องของกระแสเงินสดดี ซึ่งกระแสเงินสดของบริษัทในปัจจุบันก็เพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้" นายจุมพล กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us