|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เครื่องทำน้ำอุ่น "แอสทีน่า" ครวญ หลังปล่อยแคมเปญ "เซเว่นเซฟตี้" มากว่า 3 เดือน พลาดเป้าจาก 4.5 หมื่นเครื่อง เหลือ 3.5 หมื่นเครื่อง เหตุลมหนาวไม่เป็นใจ บวกสู้แคมเปญ ลด-แลก-แจก-แถมช่วงปลายปีไม่ไหว มั่นใจรายได้ตามเป้าที่ 470 ล้านบาท เผยปีหน้าเตรัยมรุกตลาดโปรเจกต์ จับมือแอลพีเอ็น ขนสินค้าติดตั้งทุกโครงการ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้ากว่า 1 แสนเครื่อง
นางสาวพัชณี สุทิรัตน์เสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสทีน่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ท้องถิ่นภายใต้แบรนด์"แอสทีน่า" เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้เตรียมงบทางการตลาดไว้ประมาณ 2 % จากยอดขายเครื่องทำน้ำอุ่นในปีนี้ ในการจัดแคมเปญ ชูคอนเซ็ปต์ "เซเว่น เซฟตี้" ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน พร้อมกับได้จัดกิจกรรมทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการออกโรดโชว์ให้ความรู้และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสิ่งพิมพ์ต่างๆ
"แคมเปญดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของการที่ผู้บริโภคตื่นตัวในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่มมากขึ้น แต่เมื่อเทียบยอดขายแล้วถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ โดยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ควรจะมียอดขายต่อเดือนอยู่ที่ 10,000เครื่อง แต่ในปีนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมาจนถึงปลายเดือนธันวาคมนี้คาดว่าสร้างยอดขายได้ 30,000เครื่องหรือทั้งปีจำหน่ายได้ 3,500เครื่อง ห่างจากเป้าเดิมที่วางไว้กว่า 45,000เครื่อง"
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากการประเมินที่ผ่านมาคาดว่าตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นจะเติบโตขึ้น5 % คิดเป็นจำนวนกว่า 3 แสนยูนิต แต่ปีนี้อากาศไม่หนาว ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตลดลง10-20% ขณะเดียวกันช่วงส่งท้ายปลายปีนี้หลายแบรนด์ใช้กลยุทธ์โปรโมชั่นมาร์เก็ตติ้ง อาทิ การลดแลกแจกแถมสินค้า จึงทำให้ยอดจำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่นไม่เป็นไปตามเป้า แต่เมื่อเทียบในส่วนของยอดขายกลับพบว่าโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 100ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีการปรับราคาสินค้าขึ้น
สำหรับสินค้าของบริษัทฯจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดทั้ง 9ราย จำนวนกว่า 300สาขาทั่วประเทศ มีกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับบนถึงล่าง
ในปีหน้าบริษัทฯกำลังเข้าสู่ปีที่10 ดังนั้นบริษัทฯจึงได้เตรียมงบการลงทุนกว่า7%ของรายได้ทั้งหมดในการทำกิจกรรมตลอดปี ขณะเดียวกันจะมีการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่อย่างน้อย 2 ประเภท โดยเป็นกลุ่มสินค้าในครัวเรือน พร้อมทั้งเพิ่มไลน์อัพเครื่องทำน้ำอุ่นอีก 2 รุ่น เพื่อให้ครอบคลุมตลาดมากขึ้น
ในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นนั้นทางบริษัทฯเตรียมที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขายตลอดปี เนื่องจากมองว่า การซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นไม่จำเป็นต้องซื้อตามฤดูกาล อีกทั้งตลาดโปรเจกต์ประเภทบ้านใหม่กำลังเกิดขึ้นมาก ดังนั้นบริษัทฯเตรียมเจาะกลุ่มตลาดนี้มากขึ้น ขณะนี้ได้มีการเจรจากับกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านและ คอนโด เช่น กลุ่มแอลพีเอ็น ในการนำเครื่องทำน้ำอุ่นเข้าไปติดตั้งในโครงการ รวมถึงมีแผนที่จะรุกตลาดรีเทลหรือค้าปลีกในต่างจังหวัดอีกด้วย ขณะนี้เจรจาไปแล้วหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ อุบลราชธานี และสุรินทร์
"จากการที่รุกตลาดโปรเจกต์ในปีหน้าเราตั้งเป้าว่าจะขายเครื่องทำน้ำอุ่นได้กว่า 1 แสนเครื่อง แต่คาดว่าจะเป็นเป้าที่สูงเกินไป โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าไม่เกินปี2551จะสามารถทำได้1แสนเครื่อง ขณะที่ยอดรายได้ในปี2550ตั้งเป้าที่ 570 ล้านบาท"
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้หลักจาก4 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย เครื่องซักผ้า50 % ตู้เย็น 25 % เครื่องทำน้ำอุ่น20% และเครื่องดูดฝุ่น5% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนและอิตาลีกว่า 70 % และผลิตในไทย30 %
|
|
|
|
|