เขตทหาร ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นจุดขาย ที่กำลัง"สด"ของ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คำว่า"เขตทหารห้ามเข้า" ที่เคยเห็นกันชินตา กำลังจะเปลี่ยนเป็น
"เขตทหารยินดีต้อนรับ"
นอกจาก" พิพิธภัณฑ์ของรัชการล ที่6 ในกรมรักษาดินแดน" ที่ยินดีต้อนรับประชาชนทุกคนให้เข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติไทยแล้ว
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาล และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพลเอกสุรยุทธ์
จุลลานนท์ ผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้จัดตั้งโครงการ" พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหาร"
ขึ้นเมื่อปี 2540 โดยมีคณะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทหารเป็นผู้ดูแล
แหล่งท่องเที่ยวทางทหารถือว่าเป็นสินค้าตัวใหม่ของตลาดการท่องเที่ยวเพราะยังไม่มีประเทศใดนำเสนอมาก่อน
จุดเด่น ที่สำคัญของแหล่งท่องเที่ยวทางทหารคือ จะมีความแปลกใหม่ครอบคลุมทั้ง ที่ตั้ง
แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ทางการเมือง การทหาร และบางแห่งก็สามารถผนวกรวมกับแหล่งท่องเที่ยวเดิมของจังหวัดได้ด้วย
ทำให้มีความสมบุรณ์ในการท่องเที่ยวมากขึ้น
สำหรับเขตทหาร ที่เปิดตัวไปแล้วจนเป็นที่ยอมรับของนักท่องเที่ยว ว่ามีความท้าทาย
และน่าสนใจก็คือ "ค่ายบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี" "กองพลทหารม้า ที่1
จังหวัดเพชรบูรณ์" "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก" ซึ่งสถานที่ล่าสุดนี้ได้รับรางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย
ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดีเด่นในปี2543
ในปีหน้า "ค่ายฝึก เขาชนไก่ ของกรมรักษาดินแดน" ในจังหวัดกาญจนบุรี ก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวี่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่กองทัพบก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการภาคเอกชน กำลังร่วมมือกันทำโครงการร่วมกัน เพื่อประชาสัมพันธฺ์กิจกรรมต่างๆให้เกิดขึ้นในดินแดน ที่ส่วนใหญ่ผู้ชายชาติทหารเท่านั้น จะมีโอกาสได้ไปสัมผัส
สถานที่แห่งนี้ ใช้เป็นที่ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร(รด) ปีละประมาณ 60,000-70,000คนในช่วงเดือนมกราคม
ถึงเดือนกุมภาพันธ์ของแต่ละปี เป็นพื้นที่ๆทดสอบกำลังกาย กำลังใจ ที่ผู้ชายส่วนใหญ่
ไม่เคยลืม และยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ในอดีต บริเวณรอบเขาชนไก่ และบนยอดเขาชนไก่ มีการค้นพบซากเจดีย์โบราณ ซึ่งมีการเชื่อกันว่าสร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ชัยชนะการทำสงคราม
ทุ่งลาดหญ้า สมัยสงคราม 9 ทัพ ในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และณ.เขาชนไก่นั้น
เป็นสถานที่สำคัญแห่งการรบในครั้งนั้น ด้วยความสูงของภูเขา ที่ไม่ใหญ๋โตนัก
มี3ยอดในลูกเดียวกัน ยอด ที่สูงที่สุดสูงประมาณ 272 ฟิต หรือประมาณ 5เส้น
ระยะทางเดินขึ้นเขาประมาณ3กิโลเมตร ด้วยชัยภูมิ ที่เป็นต่อ และอยู่กลางเมืองกาญจนบุรี
จึงถูกใช้เป็นที่ๆคอยตรวจกำลังความเคลื่อนไหวของข้าศึก ซึ่งมองลงมาเห็นได้ชัดเจน
เนื่องจากเมื่อพม่าเดินทางข้ามเทือกเขาบรรทัดเข้ามาจะพบพื้นที่ราบบริเวณกว้างใหญ่ก่อน ที่จะเดินทางมาถึงตัวเมืองกาญจนบุรี
ฝ่ายไทยจึงสามารถส่งกำลังลงมาสะกั้ดกั้นไว้ได้ทุกครั้ง การรบในครั้งนั้น กองทัพไทยจึงสามารถเอาชนะกองทัพพม่าได้อย่างเด็ดขาด
นอกจากนั้น ยังเชื่อกันว่า บริเวณเขาชนไก่เดิมเป็นบ้านของขุนไกร พ่อของขุนแผน
ซึ่งภายหลังขุนแผนเข้ารับราชการ และได้รับตำแหน่งเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองกาญจนบุรี
หรือ พระสุรินททร์ฤาชัย ชาวบ้านจึงได้สร้างศาล"เจ้าพ่อเขาชนไก"่ ขึ้นมาสักการะ
ค่ายฝึกเขาชนไก่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2543
และเมื่อ วันที่11-12 พฤศจิกายน 2543 ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก ที่มีคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยว
และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศ นำคณะเข้าไปพักณ.ค่ายพักเป็นเวลา1คืน
2วัน
ภายในค่ายจะมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการ ซึ่งเป็นกิจกรรม ที่สนุกสนาน
ท้าทาย ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของครูฝึก เช่น กระโดดหอสูง เกมส์ทดสอบกำลังใจโดยกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง
10 สถานี ไต่เชือกข้ามลำน้ำ การดำรงชีพในป่า นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมเกมล์วอคแรลลี่
หรือจักรยานแรลลี่ พอตกกลางคืน จะมีการฝึกให้รู้จัก ฟังเสียง ดมกลิน สัมผัส
ฝึกดูทิศ ดูดาว ซึ่งเป็นวิชาของทหารราบ
กิจกรรมทั้งหมด ที่ไม่เหมือนใครนี้จะเป็นเสน่ห์สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปพัก
โดยจะรับเข้าพักเป็นหมู่คณะปัจจุบันจะรับกลุ่มละ 50คนขึ้นไป และสามารถเลือกกิจกรรมต่างๆให้เหมาะสมกับบุคคลของแต่ละกลุ่มได้เช่นกัน