ซีวีดี เล็งเจรจาพันธิตรใหม่ 4 รายหวังขยายธุรกิจ คาดได้ข้อสรุปพันธมิตรล็อตแรก 2 รายภายในครึ่งปีหลัง50 ระบุหากสำเร็จดันรายได้ปีหน้าพุ่ง 50% เผยเดือนมี.ค.ปีหน้าเตรียมลดทุนจดทะเบียนจาก 36 ล้านเหลือ 32.40 ล้านหลังรับซื้อหุ้นเข้าพอร์ต 10%

นางสาวแคทลีน มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CVD เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานของบริษัท ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรใหม่จำนวน 4 ราย เพื่อขยายธุรกิจของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปจำนวน 2 รายภายในครึ่งปีหลัง 2550 แต่บริษัทยังคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการเจรจาได้ในขณะนี้

ทั้งนี้ เตรียมที่จะใช้เงินลงทุนในการทำธุรกิจใหม่โดยปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดที่มีอยู่ในมือประมาณ 427 ล้านบาท สำหรับการเจรจากับพันธมิตรหากเรียบร้อยตามที่มีการคาดการณ์ไว้จะส่งผลทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ขณะที่รายได้ของบริษัทในปีนี้น่าจะลดลงประมาณ 40% จากปี 48 ที่ผ่านมารายได้อยู่ที่ 1,025 ล้านบาท

สำหรับ ธุรกิจการเลือกหาพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจของบริษัทอาจจะเป็นการลักษณะการร่วมทุนหรือการเข้าไปซื้อกิจการ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อประเมินผลก่อนจะสรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจในปีหน้าบริษัทคาดว่าภาพรวมของธุรกิจจะทรงตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มทรงตัวหรืออาจจะชะลอตัวลดลงบ้าง โดยบริษัทหวังว่าตัวเลขดัชนีผู้บริโภคในปีหน้าน่าจะปรับตัวดีขึ้นซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์น่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทได้

นางมลฤดี สุขพันธรัชต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กล่าวว่า ภายในเดือนมีนาคม 2550 บริษัทมีแผนที่จะลดทุนจดทะเบียนให้เหลือ 32.40 ล้านหุ้น จากเดิมอยู่ที่ 36 ล้านหุ้นโดยบริษัทจะไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 3.6 ล้านหุ้น หรือ10% เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดสูงและเพียงพอสำหรับใช้ในการลงทุนได้

"กระแสเงินสดของบริษัทในปัจจุบันยังถือว่ามีอยู่ค่อนข้างมาก บริษัทจึงมีแผนที่จะลดทุนจดทะเบียนของบริษัทโดยบริษัทจะไม่ขายหุ้นที่บริษัทถืออยู่ในสัดส่วนประมาณ 10%"นางมลฤดีกล่าว

ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของบริษัทปัจจุบันมีการถือหุ้นอยู่ 10% มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาทของกระแสเงินสดของบริษัท โดยเป็นหุ้นที่บริษัทมีการถือค้างมาตั้งแต่ปี 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทยังไม่มีแผนที่จะซื้อหุ้นลงทุนเพิ่ม ส่วนหุ้นที่ถืออยู่บริษัทยังรอจังหวะเพื่อพิจารณาขายหุ้นเพราะที่ผ่านมาได้รับผลขาดทุนมาโดยตลอด

ส่วนนโยบายการจ่ายเงินปันผลบริษัทมีความมั่นใจว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปี49 ได้ 90% ของกำไรสุทธิจากงวดสิ้นปี 2548 บริษัทจ่ายปันผลไปแล้ว 2.20 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตามบริษัทจะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อขออนุมัติก่อนจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป

อนึ่งรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ณ วันที่ 4 เม.ย.49 อันดับ1. บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 17.57% อันดับ2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด สัดส่วน 10.81% อันดับ3. บมจ. ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ สัดส่วน 10.00% อันดับ4. น.ส.แคทลีน มาลีนนท์ สัดส่วน 9.96% อันดับ5. น.ส.เทรซีแอนน์ มาลีนนท์ สัดส่วน 9.89%

อันดับ6. นายกมลพรรธน์ เมฆวรวุฒิ สัดส่วน 5.30% อันดับ7. บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 4.09% อันดับ8. UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED สัดส่วน 3.19% อันดับ9. นายวีระศักดิ์ บุญวรเมธี สัดส่วน 2.39% อันดับ10. นายพรเสก กาญจนจารี สัดส่วน 2.00%