Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 ธันวาคม 2549
ริชมอนด์จับตลาดประชุมสัมมนาเท 5 พันล.ยึดเมืองท่องเที่ยวผุด รร.             
 


   
search resources

Hotels & Lodgings
โรงแรมริชมอนด์




ริชมอนด์คึกวางแผนระยะยาว 5 ปี ใช้เงินอีก 5,000 ล้านบาท ลงทุนขยายธุรกิจโรงแรมทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เน้นตามแหล่งท่องเที่ยว พัทยา เกาะช้าง และกระบี่ เผยทุกโรงแรมจะมีห้องจัดประชุมสัมมนาไว้บริการด้วยเพื่อตอกย้ำความเป็นโรงแรมเพื่อการประชุมและสัมมนา

นางสาวลักษณ์วรรณ วงศ์วรการ กรรรมการผู้จัดการ โรงแรมริชมอนด์ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 3-5 ปี ของบริษัทนับจากนี้ไป จะมีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของธุรกิจโรงแรมคิดเป็นมูลค่า กว่า 5,000 ล้านบาท โดยจะยึดเมืองท่องเที่ยวเปิดตัวกลุ่มโรงแรมรีสอร์ต อีก 4-5 แห่ง ซึ่งทุกแห่งจะมีห้องประชุมและสัมมนาทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมรวมอยู่ด้วย เพื่อตอกย้ำความเป็นโรงแรมเพื่อการประชุมและสัมมนา โดยในแผนระบุชัดเจนว่า กลุ่มโรงแรมของบริษัททั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะดำเนินการเพื่อรุกตลาดไมซ์แอนด์คอร์ปอเรต และตั้งเป้าผู้นำธุรกิจโรงแรมเพื่อการประชุม สัมมนา โดยถ้าเป็นใน จ.นนทบุรี เราจะเป็นโรงแรมที่รองรับกลุ่มประชุมสัมมนา ที่ครบวงจรที่สุด เพื่อรองรับศูนย์ราชการ ที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลานับจากนี้ไป

ทั้งนี้โครงการแรกจะสร้างเป็นโรงแรมรีสอร์ตขนาด 300 ห้อง ระดับ 4 ดาว ที่หาดจอมเทียน พัทยาบนพื้นที่ 12 ไร่ ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 300-500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2551 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง

สำหรับโครงการที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2550 ได้แก่ โครงการโรงแรมที่เกาะช้าง จ.ตราด บริเวณหาดไก่แบ้ พื้นที่ 14-15 ไร่ สร้างเป็นลักษณะรีสอร์ต จำนวน 150 ยูนิต พร้อมห้องประชุมขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนราว 400-500 ล้านบาท

ส่วนโครงการที่จะเริ่มในปี 2551 ได้แก่โครงการที่ จ.กระบี่ ซึ่งมีที่ดินพร้อมพัฒนาอยู่แล้ว 2 ผืน ขนาด 34 ไร่ และ 88 ไร่ อยู่ที่แหลมหางนาก และหาดบ้านอ่าวเสี้ยว โดย ในผืน 34 ไร่ จะแบ่งพัฒนาเป็น 2 เฟส ๆแรกแบ่งเป็น 7 ไร่ ก่อสร้างโรงแรมระดับหรู 5-6 ใช้งบ 200-300 ล้านบาท โดยรีสอร์ตแห่งนี้จะเน้นเจาะกลุ่มฮันนีมูน และไมซ์ อินเซนทีฟ ( MICE Incentive) เช่นเดียวกัน แต่เมื่อครบ 34 ไร่น่าจะใช้งบประมาณลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ส่วนพื้นที่ผืนที่ 2 จำนวน 88 ไร่นั้น จะมีการสร้างเป็นหมู่บ้านลองสเตย์ ซึ่งตั้งไว้ที่ 100 ยูนิต แต่ยังไม่ได้กำหนดแผนการลงทุน และการออกแบบก่อสร้างที่แน่นอนว่าจะเริ่มเมื่อใด ต่อมาในปี 2552 ก็จะเป็นแผนการพัฒนาที่ดินบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีพื้นที่ 18 ไร่ซึ่งมีหาดส่วนตัวยาวประมาณ 100 เมตรเลยทีเดียว โดยรายละเอียดการลงทุนและรูปแบบอยู่ในขันตอนของการวางแผนงานเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังได้มีแผนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานครเพิ่มด้วยคือการสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ขึ้นอีก 1 โรงแรมที่ถนนแจ้งวัฒนะเพื่อรองรับศูนย์ราชการใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย โดยมีพื้นที่จำนวน 7 ไร่ อยู่ใกล้กับโชว์รูมรถโตโยต้า โดยได้วาดแบบออกมาแล้วเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 19 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้กลุ่มโรงแรม และรีสอร์ตทั้งหมดนั้นจะมิได้มีชื่อโรงแรมเดียวกันหมด แต่จะมีชื่อ รูปแบบ หรือคอนเซปต์ที่มีสไตล์โดดเด่นแตกต่างกันไป โดยแผนการบริหารนั้นคาดว่าจะเป็นเชนโรงแรม local ทำการบริหารเอง แต่ก็มีแนวโน้มที่จะนำเชนต่างชาติเข้ามาบริหารเช่นกัน ซึ่งอยู่ในช่วงของการศึกษาระบบการบริหารของเชนโรงแรมต่างชาติอยู่ โดยสิ้นปี 2549 คาดว่าจะมียอดขายของทั้งกลุ่มโรงแรมริชมอนด์ทั้งหมด อยู่ที่ 240-250 ล้านบาท และตั้งเป้าในปี 2550 อยู่ที่ 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในเครืออื่นๆ ของตระกูล "วงศ์วรการ" นั้นยังประกอบไปด้วยเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ซึ่งมีอยู่ 2 แห่งด้วยกันคือ สุขุมวิท 23 ชื่อ Two Tree Mansion และกำลังก่อสร้างอยู่ที่ประตู้น้ำ อีก 70 ยูนิต ใช้งบประมาณลงทุนไป 100 ล้านบาท โดยเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ทั้งสองนั้นมีกลุ่มลูกค้า นักธุรกิจต่างชาติมาใช้พักบริการแบบลอง สเตย์ เป็นกลุ่มลูกค้าพื้นฐานหลักอยู่แล้วได้แก่ พวกชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในประเทศไทยเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอพาร์ทเมนต์ที่เขตปิ่นเกล้า ที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังไม่ได้มีแผนการในการลงทุน และยังไม่นับรวมถึงธุรกรรมซื้อมาขายไปที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ อื่นๆ อีกด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us