“อมตะ” ตั้งเป้าปี50 โตดับเบิล 100% มั่นใจภาพลักษณ์รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นทุนต่างชาติ ระบุปัจจัยลบนิ่ง ญี่ปุ่น ลูกค้าหลักยังสนใจลงทุนธุรกิจยานยนต์ในประเทศ แจงยอดขายปี49ตกเป้าเพราะปัจจัยลบรุมเล้า เผยเป้ารายได้ปี50 ไม่ต่ำกว่า 4,500-5,000 ล้านบาท
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและรองประธานอาวุโส บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี2550 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปี2549 นี้100% หรือ สามารถสร้างยอดขายที่ดินในนิคมทั้ง 2 แห่ง คือ นิคม อมตะนคร และ นิคม อมตะ ซิตี้ โดยคาดว่ายอดขายดังกล่าวจะมาจากการขายที่ดินในนิคม อมตะนคร ไตรมาสละ 225 ไร่ คิดเป็นรวมจำนวน900 ไร่ ใน4 ไตรมาส ส่วนในนิคม อมตะซิตี้ จะมียอดขายไตรมาสละ 150 ไร่ คิดเป็นจำรนวนรวม 4 ไตรมาส 600ไร่ ซึ่งเมื่อคิดรวมจำนวนยอดขายของทั้ง 2 นิคมรวมจะทำให้บริษัทมียอดขายทั้งปีรวม 1,500ไร่
ส่วนยอดรายได้รวมในปี50 นั้นบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 4,500 -5,000 ล้านทาบ โดยรายได้ดังกล่าวจะมาจากการขายที่ดินในนิคมฯในสัดส่วน 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะมาจากค่าบริการสาธารณูปโภคและ ค่าบริหารจัดการอื่นๆ ส่วนในปี2549 นี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายที่ดินจากนิคมฯ ทั้ง2แห่งรวมกันประมาณ 600-700ไร่ ซึ่งตำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 750ไร่ ทั้งนี้สาเหตุที่ คิดเป็นมูลค่าขายประมารณ 2,300 กว่าล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่ในปีนี้บริษัทมียอดขายที่ต่ำกว่าในปี2548 ที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยลบรอบด้านที่เข้ามาส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทำให้เกิดการชะลอการลงทุนของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในต่างประเทศที่จะเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ทำให้ยอดขายที่ดินในนิคมทั้ง 2 แห่งปรับตัวลดลง ส่วนสาเหตุที่บริษัทเชื่อว่าในปี2550 จะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวจากปีนี้ นั้นเนื่องมาจาก ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานิ่งหมด แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มดอกเบี้ย น้ำมัน สถานการณ์ด้านการเมือง
นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของรัฐบาลที่สะท้อนในเรื่องของความโปร่งใสในการบริหารงาน และ การเรื่องความสุจริต ทำให้ขณะนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น รวมถึงกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาตั้งฐานการผลิต ธุรกิจประเภทยานยนต์ ยังให้ความเชื่อมั่นและความสนใจในประเทศไทยมากกว่าประเทศอื่นๆ ทำให้เชื่อว่าในปี50 นี้ ป้ายอดขายที่วาวงไว้จะสามารถเป็นไปได้ตามเป้า
“อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบในปีหน้าที่เรากังวลอยู่ ซึ่งทำให้เราตั้งเป้ายอดขายที่ดินไว้ไม่สูงมากนัก ก้คือปัญหาเรื่องคลื่นใต้น้ำ ที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในขณะเดียวกันก็ยังกังวลภาพวะการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศเวียดนาม ซึ่งอาจจะทำให้เวียดนามกลายเป็นคู่แข่งที่ไม่สามารถประมาทได้“ นายวิบูลย์กล่าว
ทั้งนี้ ในปี50 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการพัฒนาทีดินในส่วนของการวางระบบสาธารณูปโภคในเฟสที่ 8 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงกลางปีหน้า โดยวางงบประมาณในการลงทุนไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี49 ที่ใช้งบประมาณในการลงทุน500 ล้านบาท
|