|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
AIT ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 10-15% ขณะที่รายได้ปีนี้คาดแตะ 2.3 พันล้านบาท รอลุ้นงานประมูลของกฟผ. มูลค่าโครงการ 2.1 พันล้านบาทสิ้นปีนี้ ขณะที่ปีหน้าเปิดแผนหาธุรกิจเพิ่มร่วมทุนหวังขยายช่องทางรายได้ ส่วนงานประมูลเตรียมร่วมประมูลมูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้าน ผู้บริหารย้ำปัญหาการเมืองไม่กระทบธุรกิจบริษัท ชี้การแข่งขันรุนแรงขึ้นผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท ขณะที่ในปีหน้าบริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10.15% โดยคาดว่าจะมีรายได้ขั้นต่ำอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ทั้งนี้ รายได้หลักของบริษัทส่วนใหญ่จะมาจากโครงการประมูลงานจากภาครัฐประมาณ 85% ซึ่งเป็นงานในลักษณะการติดตั้งประมาณ 2 พันล้านบาทที่เหลือเป็นรายได้ในส่วนของงานบำรุงรักษาและซ่อมแซม
สำหรับในช่วงปลายเดือนนี้บริษัทรอผลการร่วมประมูลงานของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการประมาณ 2.1 พันล้านบาทโดยหากชนะการประมูลจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะซื้อบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ Call Center เพื่อเป็นการขยายธุรกิจ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนในการซื้อบริษัท เพราะจะต้องพิจารณาถึงงบการเงินและฐานะการเงินของบริษัทประกอบซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณครึ่งปีแรกของปีหน้า โดยบริษัทดังกล่าวมีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 70-100 ล้านบาทและมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท รวมถึงการเข้าไปร่วมทุนในบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท
อย่างไรก็ตาม รูปแบบในการซื้อกิจการบริษัทจะใช้ลักษณะการร่วมทุนเพื่อให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมยังสามารถเป็นผู้บริหารของบริษัทได้ต่อไป ประกอบกับบริษัทต้องการใช้ความสัมพันธ์ที่ดีของกลุ่มผู้บริหารเดิมกับลูกค้าของบริษัท
นายศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี กับบริษัทสเกล พล็อตติ้ง เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในการรับดำเนินงานต่อจากบริษัทเพื่องานพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์อย่างครบวงจร โดยบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนประมาณ 60% และโดยทุนจดทะเบียนของบริษัทร่วมทุนอยู่ที่ 10-20 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีหน้างานส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นงานต่อเนื่องทั้งการติดตั้งและการให้บริการ เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทจะเน้นการเข้าร่วมประมูลงานขนาดใหญ่โดยในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะเข้าร่วมประมูลงานมูลค่ารวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเนื่องจากฐานะการเงินของบริษัทในขณะนี้ยังสามารถรองรับการประมูลงานได้อีกมาก
นายศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาทางการเมืองในปัจจุบันที่อาจจะไม่นิ่งไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เพราะงบประมาณจากภาครัฐในเรื่องการลงทุนในโครงการต่างๆ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ยังสามารถเดินหน้าต่อไป โดยปัจจุบันธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างแข็งขันกันรุนแรงทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นค่อนข้างมาก
ในส่วนของราคาหุ้นของบริษัทปัจจุบันเมื่อเทียบกับค่าพีอีเรโชของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5 เท่า ขณะที่บริษัทในอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ประมาณ 10 เท่าโดยบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งคาดว่าในปีหน้าราคาหุ้นของบริษัทจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับพีอีเรโชที่ 6-7 เท่าแต่ยังถือว่าเป็นระดับที่ต่ำกว่าบริษัทในอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ เรื่องการจ่ายเงินปันผลของบริษัทบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยงวดครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท
|
|
|
|
|