Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 ธันวาคม 2549
AITแตกไลน์ธุรกิจเสริมรายได้หลักชี้การเมืองไม่กระทบคาดปี50โต15%             
 


   
www resources

โฮมเพจ แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี, บมจ.

   
search resources

แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี, บมจ.
ศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์
ICT (Information and Communication Technology)




AIT ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 10-15% ขณะที่รายได้ปีนี้คาดแตะ 2.3 พันล้านบาท รอลุ้นงานประมูลของกฟผ. มูลค่าโครงการ 2.1 พันล้านบาทสิ้นปีนี้ ขณะที่ปีหน้าเปิดแผนหาธุรกิจเพิ่มร่วมทุนหวังขยายช่องทางรายได้ ส่วนงานประมูลเตรียมร่วมประมูลมูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้าน ผู้บริหารย้ำปัญหาการเมืองไม่กระทบธุรกิจบริษัท ชี้การแข่งขันรุนแรงขึ้นผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท ขณะที่ในปีหน้าบริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10.15% โดยคาดว่าจะมีรายได้ขั้นต่ำอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ทั้งนี้ รายได้หลักของบริษัทส่วนใหญ่จะมาจากโครงการประมูลงานจากภาครัฐประมาณ 85% ซึ่งเป็นงานในลักษณะการติดตั้งประมาณ 2 พันล้านบาทที่เหลือเป็นรายได้ในส่วนของงานบำรุงรักษาและซ่อมแซม

สำหรับในช่วงปลายเดือนนี้บริษัทรอผลการร่วมประมูลงานของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการประมาณ 2.1 พันล้านบาทโดยหากชนะการประมูลจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะซื้อบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ Call Center เพื่อเป็นการขยายธุรกิจ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนในการซื้อบริษัท เพราะจะต้องพิจารณาถึงงบการเงินและฐานะการเงินของบริษัทประกอบซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณครึ่งปีแรกของปีหน้า โดยบริษัทดังกล่าวมีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 70-100 ล้านบาทและมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท รวมถึงการเข้าไปร่วมทุนในบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท

อย่างไรก็ตาม รูปแบบในการซื้อกิจการบริษัทจะใช้ลักษณะการร่วมทุนเพื่อให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมยังสามารถเป็นผู้บริหารของบริษัทได้ต่อไป ประกอบกับบริษัทต้องการใช้ความสัมพันธ์ที่ดีของกลุ่มผู้บริหารเดิมกับลูกค้าของบริษัท

นายศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี กับบริษัทสเกล พล็อตติ้ง เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในการรับดำเนินงานต่อจากบริษัทเพื่องานพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์อย่างครบวงจร โดยบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนประมาณ 60% และโดยทุนจดทะเบียนของบริษัทร่วมทุนอยู่ที่ 10-20 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปีหน้างานส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นงานต่อเนื่องทั้งการติดตั้งและการให้บริการ เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทจะเน้นการเข้าร่วมประมูลงานขนาดใหญ่โดยในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะเข้าร่วมประมูลงานมูลค่ารวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเนื่องจากฐานะการเงินของบริษัทในขณะนี้ยังสามารถรองรับการประมูลงานได้อีกมาก

นายศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาทางการเมืองในปัจจุบันที่อาจจะไม่นิ่งไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เพราะงบประมาณจากภาครัฐในเรื่องการลงทุนในโครงการต่างๆ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ยังสามารถเดินหน้าต่อไป โดยปัจจุบันธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างแข็งขันกันรุนแรงทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นค่อนข้างมาก

ในส่วนของราคาหุ้นของบริษัทปัจจุบันเมื่อเทียบกับค่าพีอีเรโชของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5 เท่า ขณะที่บริษัทในอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ประมาณ 10 เท่าโดยบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งคาดว่าในปีหน้าราคาหุ้นของบริษัทจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับพีอีเรโชที่ 6-7 เท่าแต่ยังถือว่าเป็นระดับที่ต่ำกว่าบริษัทในอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ เรื่องการจ่ายเงินปันผลของบริษัทบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยงวดครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us