"ประยุทธ มหากิจศิริ" กลืนน้ำลายตัวเอง ตัดขายหุ้น "ไทยน๊อคซ์ฯ" ให้ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเหล็ก กล้าจากประเทศเกาหลี รวมทั้งสิ้น 1.2 พันล้านหุ้น หรือ 15% หลังต่อรองราคาสำเร็จที่หุ้นละ 1.67 บาท สูงกว่าราคาปิดวานนี้ 1.41 บาท มูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท คาดสรุปดีลได้ภายใน 60 วัน คาดดันยอดขายต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบัน 40% หนุนรายได้รวมพุ่ง 15% ขณะที่ดีลซื้อขายซ่อนสัญญาสุดแสบให้ POSCO จัดหาผลิตภัณฑ์ม้วนเหล็กรีดร้อนพร้อมให้เป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วไปที่ไม่มีลักษณะผูกขาด
นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) หรือ INOX เปิดเผยว่า ได้ขายหุ้น INOX ที่ถืออยู่ให้กับบริษัท POSCO จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จำนวน 1,200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 15% ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 1.67 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,004 ล้านบาท
โดยสาเหตุขายหุ้นให้กับ POSCO เป็นการดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจและส่งเสริมให้บริษัทมีอัตราการขยายตัวที่ดีในอนาคต เนื่องจาก POSCO เป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลี ลอนดอน นิวยอร์ค และโตเกียว
ขณะเดียวกัน POSCO จะเข้ามาเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบให้กับบริษัท และยังเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของบริษัทในต่างประเทศ โดยคาดว่าในปีหน้าสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากขณะนี้ที่มี 40% โดยจะทำให้รายได้ในปี 2550 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15%
สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นที่ 1.67 บาท นั้นเป็นราคาตามมูลค่าบัญชี (BooK Value) ของบริษัทในไตรมาส 3/49 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม แม้ว่าจะเป็นราคาที่สูงกว่าในกระดานก็ตาม
"POSCOได้มีการติดต่อโดยตรงที่จะซื้อหุ้นของบริษัทมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว และต้องการที่จะถือหุ้นของบริษัท 25-49% เนื่องจากมองว่าธุรกิจ INOX มีแนวโน้มเติบโตดีในอนาคต เป็นฐานการผลิตสินค้าที่ดี และผู้บริหารบริษัทมีธรรมาภิบาลที่ดี มีการบริหารงานอย่างโปร่งใส แต่ตอนแรกผมไม่อยากที่จะมีการขายหุ้นออกมาเพราะต้องการที่จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเจรจามาตลอดทำให้เห็นว่าหากได้บริษัทดังกล่าวเข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัทจะเกิดประโยชน์ต่อบริษัท" นายประยุทธ กล่าว
สำหรับการขายหุ้นครั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายใน 2 เดือน และ POSCO จะมีการส่งบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัท 1 คน โดยขณะนี้ต้องรอให้ POSCO มีการขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทก่อน ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้กลุ่มของตนยังคงถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 51% หรือประมาณ 4,000 ล้านหุ้น
"กลุ่มของผมไม่มีแผนที่จะมีการขายหุ้นออกมาอีก เพราะต้องการที่จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทยังมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต"
นายฌ็อง-ปอล เทเวอแน็ง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส กล่าวว่า POSCO ได้ตกลงในหลักการที่จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ม้วนเหล็กรีดร้อน และตัวแทนจำหน่ายทั่วไปที่ไม่มีลักษณะผูกขาด (non-exclusive agent) สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กรีดเย็นของบริษัท โดยในเบื้องต้น POSCO ตกลงทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 2 ปีและจะต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นคราวๆ อีกคราวละ 2 ปี
ทั้งนี้ ธุรกรรมข้างต้นยังไม่มีผลผูกพันคู่สัญญา เนื่องจากการเข้าทำสัญญาต่างๆยังอยู่ภายใต้บังคับเงื่อนไขอื่นๆ รวมทั้งการอนุมัติของคณะกรรมการบริษัท POSCO และการเจรจาและการลงนามในสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จได้ภายใน 60 วันนับจากนี้
อย่างไรก็ดี บริษัทขอแจ้งรายละเอียดต่างๆ ตามบันทึกข้อตกลงซึ่งได้ลงนามโดยคู่สัญญาแล้ววันนี้ตามแนบเพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสาธารณชนทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวต่อไป
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายประยุทธ มหากิจศิริ เคยปฎิเสธเรื่องการขายหุ้นในส่วนที่ถือครองให้กับนักลงทุนต่างชาติมาโดยตลอด โดยวันที่ 27 ต.ค. 49 ได้มีการส่งหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่ากลุ่มคุณประยุทธ มหากิจศิริ ไม่มีจุดประสงค์ที่จะขายหุ้นของบริษัทตามที่เป็นข่าว
**ราคาหุ้น INOX พุ่งเกือบ15%
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น INOX วานนี้(6 ธ.ค.) หลังผู้บริหารบริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เรื่องการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายในกระดานทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดที่ 1.48 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลงมาปิดที่ 1.41 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 14.63% มูลค่าการซื้อขาย 165.92 ล้านบาท
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้น 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ 7 เมษายน 2549 ประกอบด้วย อันดับ 1 บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด จำนวน 2,349,783,852 หุ้น หรือ 29.37% อันดับ 2 นายประยุทธ มหากิจศิริ จำนวน 1,936,197,707 หุ้น หรือ 24.20% อันดับ 3 KIM ENG SECURITIES PTE. LTD. จำนวน 716,096,900 หุ้น สัดส่วน 8.95% อันดับ 4 นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ จำนวน 429,000,000 หุ้น หรือ 5.36% อันดับ 5 บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน)จำนวน 204,290,900 หุ้น หรือ 2.55%
อันดับ 6 บริษัท เลควูดแลนด์ จำกัด จำนวน 200,000,000 หุ้น หรือ 2.50% อันดับ 7 น.ส.อุษณีย์ มหากิจศิริ จำนวน 183,261,285 หุ้น หรือ 2.29% อันดับ 8 บริษัท เลควูดคันทรี่คลับ จำกัด จำนวน 116,581,354 หุ้น หรือ 1.46% อันดับ 9 ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จำนวน 100,000,000 หุ้น หรือ 1.25% อันดับ 10 MARIZON CAPITAL LIMITED จำนวน 95,000,000 หุ้น หรือ 1.19%
แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า กรณีการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ในราคาที่สูงกว่าราคาในกระดานส่งผลบวกทางด้านจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นๆ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทไม่ค่อยมีข่าวในเชิงบวก ประกอบกับการเข้ามาถือหุ้นของ POSCO จะทำให้ INOX ประหยัดต้นทุนในการผลิตเนื่องจาก POSCO ได้ตกลงที่จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ม้วนเหล็กรีดร้อน
ทั้งนี้ ยังแนะนำถือ โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 1.44 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่าในปีหน้าการขยายตัวของธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักรมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงแต่ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นไปตามวัฎจักรของธุรกิจดังกล่าว
|