Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 ธันวาคม 2549
"ประยุทธ"ทิ้งINOX15%             
 


   
www resources

โฮมเพจไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, บมจ.

   
search resources

ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, บมจ.
ประยุทธ มหากิจศิริ
Metal and Steel




"ประยุทธ มหากิจศิริ" กลืนน้ำลายตัวเอง ตัดขายหุ้น "ไทยน๊อคซ์ฯ" ให้ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเหล็ก กล้าจากประเทศเกาหลี รวมทั้งสิ้น 1.2 พันล้านหุ้น หรือ 15% หลังต่อรองราคาสำเร็จที่หุ้นละ 1.67 บาท สูงกว่าราคาปิดวานนี้ 1.41 บาท มูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท คาดสรุปดีลได้ภายใน 60 วัน คาดดันยอดขายต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบัน 40% หนุนรายได้รวมพุ่ง 15% ขณะที่ดีลซื้อขายซ่อนสัญญาสุดแสบให้ POSCO จัดหาผลิตภัณฑ์ม้วนเหล็กรีดร้อนพร้อมให้เป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วไปที่ไม่มีลักษณะผูกขาด

นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) หรือ INOX เปิดเผยว่า ได้ขายหุ้น INOX ที่ถืออยู่ให้กับบริษัท POSCO จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จำนวน 1,200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 15% ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 1.67 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,004 ล้านบาท

โดยสาเหตุขายหุ้นให้กับ POSCO เป็นการดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจและส่งเสริมให้บริษัทมีอัตราการขยายตัวที่ดีในอนาคต เนื่องจาก POSCO เป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลี ลอนดอน นิวยอร์ค และโตเกียว

ขณะเดียวกัน POSCO จะเข้ามาเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบให้กับบริษัท และยังเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของบริษัทในต่างประเทศ โดยคาดว่าในปีหน้าสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากขณะนี้ที่มี 40% โดยจะทำให้รายได้ในปี 2550 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15%

สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นที่ 1.67 บาท นั้นเป็นราคาตามมูลค่าบัญชี (BooK Value) ของบริษัทในไตรมาส 3/49 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม แม้ว่าจะเป็นราคาที่สูงกว่าในกระดานก็ตาม

"POSCOได้มีการติดต่อโดยตรงที่จะซื้อหุ้นของบริษัทมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว และต้องการที่จะถือหุ้นของบริษัท 25-49% เนื่องจากมองว่าธุรกิจ INOX มีแนวโน้มเติบโตดีในอนาคต เป็นฐานการผลิตสินค้าที่ดี และผู้บริหารบริษัทมีธรรมาภิบาลที่ดี มีการบริหารงานอย่างโปร่งใส แต่ตอนแรกผมไม่อยากที่จะมีการขายหุ้นออกมาเพราะต้องการที่จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเจรจามาตลอดทำให้เห็นว่าหากได้บริษัทดังกล่าวเข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัทจะเกิดประโยชน์ต่อบริษัท" นายประยุทธ กล่าว

สำหรับการขายหุ้นครั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายใน 2 เดือน และ POSCO จะมีการส่งบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัท 1 คน โดยขณะนี้ต้องรอให้ POSCO มีการขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทก่อน ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้กลุ่มของตนยังคงถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 51% หรือประมาณ 4,000 ล้านหุ้น

"กลุ่มของผมไม่มีแผนที่จะมีการขายหุ้นออกมาอีก เพราะต้องการที่จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทยังมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต"

นายฌ็อง-ปอล เทเวอแน็ง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส กล่าวว่า POSCO ได้ตกลงในหลักการที่จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ม้วนเหล็กรีดร้อน และตัวแทนจำหน่ายทั่วไปที่ไม่มีลักษณะผูกขาด (non-exclusive agent) สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กรีดเย็นของบริษัท โดยในเบื้องต้น POSCO ตกลงทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 2 ปีและจะต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นคราวๆ อีกคราวละ 2 ปี

ทั้งนี้ ธุรกรรมข้างต้นยังไม่มีผลผูกพันคู่สัญญา เนื่องจากการเข้าทำสัญญาต่างๆยังอยู่ภายใต้บังคับเงื่อนไขอื่นๆ รวมทั้งการอนุมัติของคณะกรรมการบริษัท POSCO และการเจรจาและการลงนามในสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จได้ภายใน 60 วันนับจากนี้

อย่างไรก็ดี บริษัทขอแจ้งรายละเอียดต่างๆ ตามบันทึกข้อตกลงซึ่งได้ลงนามโดยคู่สัญญาแล้ววันนี้ตามแนบเพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสาธารณชนทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวต่อไป

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายประยุทธ มหากิจศิริ เคยปฎิเสธเรื่องการขายหุ้นในส่วนที่ถือครองให้กับนักลงทุนต่างชาติมาโดยตลอด โดยวันที่ 27 ต.ค. 49 ได้มีการส่งหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่ากลุ่มคุณประยุทธ มหากิจศิริ ไม่มีจุดประสงค์ที่จะขายหุ้นของบริษัทตามที่เป็นข่าว

**ราคาหุ้น INOX พุ่งเกือบ15%

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น INOX วานนี้(6 ธ.ค.) หลังผู้บริหารบริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เรื่องการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายในกระดานทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดที่ 1.48 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลงมาปิดที่ 1.41 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 14.63% มูลค่าการซื้อขาย 165.92 ล้านบาท

สำหรับสัดส่วนการถือหุ้น 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ 7 เมษายน 2549 ประกอบด้วย อันดับ 1 บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด จำนวน 2,349,783,852 หุ้น หรือ 29.37% อันดับ 2 นายประยุทธ มหากิจศิริ จำนวน 1,936,197,707 หุ้น หรือ 24.20% อันดับ 3 KIM ENG SECURITIES PTE. LTD. จำนวน 716,096,900 หุ้น สัดส่วน 8.95% อันดับ 4 นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ จำนวน 429,000,000 หุ้น หรือ 5.36% อันดับ 5 บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน)จำนวน 204,290,900 หุ้น หรือ 2.55%

อันดับ 6 บริษัท เลควูดแลนด์ จำกัด จำนวน 200,000,000 หุ้น หรือ 2.50% อันดับ 7 น.ส.อุษณีย์ มหากิจศิริ จำนวน 183,261,285 หุ้น หรือ 2.29% อันดับ 8 บริษัท เลควูดคันทรี่คลับ จำกัด จำนวน 116,581,354 หุ้น หรือ 1.46% อันดับ 9 ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จำนวน 100,000,000 หุ้น หรือ 1.25% อันดับ 10 MARIZON CAPITAL LIMITED จำนวน 95,000,000 หุ้น หรือ 1.19%

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า กรณีการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ในราคาที่สูงกว่าราคาในกระดานส่งผลบวกทางด้านจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นๆ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทไม่ค่อยมีข่าวในเชิงบวก ประกอบกับการเข้ามาถือหุ้นของ POSCO จะทำให้ INOX ประหยัดต้นทุนในการผลิตเนื่องจาก POSCO ได้ตกลงที่จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ม้วนเหล็กรีดร้อน

ทั้งนี้ ยังแนะนำถือ โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 1.44 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่าในปีหน้าการขยายตัวของธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักรมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงแต่ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นไปตามวัฎจักรของธุรกิจดังกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us