Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 ธันวาคม 2549
ช็อก!แสนสิริฯเพิ่มทุน1.2หมื่นล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ แสนสิริ

   
search resources

แสนสิริ, บมจ.
Real Estate




"แสนสิริ" ประกาศเพิ่มครั้งใหญ่12,610 ล้านบาท พร้อมออก Warrant รองรับการเพิ่มทุนสูงสุดเป็น 19,238 ล้านบาท ภายใน 5 ปี ด้านเศรษฐา เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้น 18 ม.ค.50 หวังสร้างความชัดเจนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ล้างภาพผู้ถือหุ้นรายเดิม สร้างมูลค่าเพิ่มหุ้น "แสนสิริ" แจงจุดประสงค์การเพิ่มทุน ต้องการเป็นเบอร์ 1 แซงหน้ากลุ่มแลนด์ฯ ลดบทบาทเอ็นพาร์ค

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ได้มีมติอนุมัติแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีกจำนวน 12,610,225,400.88 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 6,628,246,421.68 บาท ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 19,238,471,822.56 บาท โดยบริษัทจะมีการออกหุ้นสามัญล็อตใหม่จำนวน 2,946,314,346 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 4.28 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ บริษัทได้อนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (Warrant) จำนวนไม่เกิน1,473,314,346 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วย โดยใบสำคัญแสดงสิทธ์ สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทได้มอบหมายให้ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) เป็นผู้ร่วมดำเนินการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท

สำหรับการเพิ่มทุนดังกล่าว บริษัทมีจุดประสงค์สำคัญ 3 ประการคือ การขึ้นเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนที่แข็งแกร่ง ความชัดเจนของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และการลดความสำคัญในการถือหุ้นของบริษัท แนเชอร์รัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (N-PARK)ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นของ แสนสิริ เปลี่ยนแปลงใหม่ โดยตนจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท มีสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกิน 24.9% จากเดิมที่ตนมีหุ้นอยู่ในสัดส่วน 0.6% หรือประมาณ 8 ล้านหุ้น

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ถือหุ้นรายเดิมจะมีสัดส่วนการถือหุ้นลดลง50% โดยเฉพาะในกรณีของบริษัท แนเชอรัลพาร์คฯ ซึ่งเดิมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 24% จะคงเหลือหุ้นในบริษัทแสนสิริประมาณ 12%

" ตนคาดว่าทางบริษัทแนเชอรัล พาร์ค จะไม่ใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งจะทำให้บริษัทแนเชอร์รัล พาร์ค คงมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลงเหลือ 12% นอกจากนี้การที่ตนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท จะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทในสายตานักลงทุนมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะสามารถเพิ่มมูลค่าหุ้นของบริษัทได้ดีเท่าที่น่าจะเป็น จากเดิมที่นักลงทุนยังไม่ให้ความเชื่อมั่นในตัวผู้ถือหุ้นใหญ่มากนัก " นายเศรษฐากล่าวให้เห็นถึงปัญหาที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผลของการเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนนั้น คงต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการผู้ถือหุ้น จะพิจารณาขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับตนจำนวนเท่าใด ซึ่งการดำเนินการขออนุมัติมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นจะจัดขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2550 นี้

" การเพิ่มทุนจดทะเบียนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็ง เชื่อว่าการปรับตัวของบริษัท จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการธุรกิจอสังหาฯด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะมีเงินทุนที่มากเพียงพอต่อการขยายธุรกิจแบบครบวงจรแล้ว ยังช่วยให้ฐานะทางด้านหนี้สินต่อทุนลดลง จากปัจจุบัน 1.37 เท่า ลงเหลือ 0.88 เท่า ทันที ความพร้อมของบริษัท จะสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทฯเพิ่มขึ้น"นายเศรษฐากล่าวถึงอนาคตของกลุ่มแสนสิริ

ด้านฐานะการเงินของบริษัทที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ 30 ก.ย.2549 บริษัทมีสินทรัพย์ 18,365 ล้านบาท หนี้สิน 10,656 ล้านบาท รายได้รวม 8,224 ล้านบาท กำไรสุทธิ 327.44 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น(บาท) 0.22 มีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์(ROA) 5.19% โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเกือบ 6,000 ล้านบาท ขณะที่ทางด้านบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ มีสินทรัพย์ 40,147 ล้านบาท หนี้สิน 17,938 ล้านบาท รายได้รวม 12,309 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,970.58 ล้านบาท มีROA ระดับ 10.30% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 66,962.54 ล้านบาท

สำหรับหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่นี้ จะขายให้แก่นักลงทุนเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะขายให้แก่นักลงทุนบสถาบัน ซึ่งคาดว่าจะขายให้ไม่เกิน 35 ราย โดยจะมีไปนำเสนอข้อมูลการขายหุ้นเพิ่มทุน(โรดโชว์)ในต่างประเทศ เช่น ประเทศฮ่องกง, สิงคโปร์ และยุโรป เป็นต้น

นายเศรษฐา กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจของแสนสิริในช่วงต่อไป มีกลยุทธ์หลัก 4 ประการ ที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจมีความแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย การสานต่อการสร้างแบรนด์สินค้าให้แข็งแกร่ง ทั้งในส่วนโครงการบ้านจัดสรร การส้รางยอดขายล่วงหน้า (Pre-Sale Backlog) จากโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้บริษัทมียอดขายแล้ว15,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องใน 1-3 ปีข้างหน้า และ แผนการขยายฐานการพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจรผ่านบริษัทในเครือต่างๆ และสุดท้ายคือการมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีผลกระทบต่อแผนการลงทุนระยะยาว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us