Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2537
"เซอร์วิส โพรวายเดอร์ พีซีเอ็น 1800" จุดเปลี่ยนไออีซี             
 

   
related stories

"72 ปี ไออีซี วิญญาณพ่อค้าและมืออาชีพไม่ได้หายไปไหน"

   
www resources

โฮมเพจ แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส - AIS

   
search resources

แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส, บมจ.
โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น, บมจ.
อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง, บมจ.
Mobile Phone




การได้เป็น "ตัวแทนเพื่อจัดให้บริการวิทยุคมนาคม (SERVICE PROVIDER) ระบบเซลลูลาร์ พีซีเอ็น (PCN-PERSONAL COMMUNICATION NETWORK)" ให้กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเกชั่น หรือ "TAC" เป็นสิ่งที่มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์ของ ไออีซี. เป็นอย่างมาก

เพราะเท่ากับเป็นการเปลี่ยนบทบาทของ ไออีซี. จากผู้ขายลูกข่ายหรือตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย ที่มีรายได้จากการขายเครื่องเพียงอย่างเดียว มาเป็นผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เก็บกินค่าโทรศัพท์เป็นระยะเวลาถึง 20 ปี รายได้จากการขายโทรศัพท์โนเกีย เป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด ของ ไออีซี. คนใน ไออีซี. เองถึงกับกับบอกว่าในระยะปีสองปีมานี้ รายได้ตัวนี้สูงเฉียด ๆ 90% ของยอดขาย ไออีซี. ด้วยซ้ำ

การฝากอนาคตของกิจการไว้กับยอดขายโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียว เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าตลาดผู้ใช้บริการโทรมือถือนับวันมีแต่จะขยายตัวกว้างขวางขึ้นแต่คนที่จะได้ผลประโยชน์จากตรงนี้มากที่สุดคือ ผู้ให้บริการหรือเจ้าของสัมปทานซึ่งมีอยู่สองรายคือ แทคที่รับสัมปทานระบบ 800 จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย กับบริษัทแอดว้านซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ "เอไอเอส" ซึ่งเป็นผู้บริหารระบบ 900 ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

ยิ่งมีคนโทรมากเท่าไร ก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้น

แต่สำหรับคนขายเครื่องแล้ว ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่นับวันมีแต่จะรุนแรงขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันมีโทรศัพท์มือถือนับสิบ ๆ ยี่ห้อในทุกระดับราคาที่ต้องช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากที่สุด ในขณะที่ราคาขายต่อเครื่องก็มีแนวโน้มที่จะลดลงมาเรื่อย ๆ เพราะเป็นผลกระทบจากสภาพการแข่งขัน

อัตราการเติบโตของธุรกิจขายโทรศัพท์มือถือ จึงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราที่ลดลง

"เราผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว ผมคิดว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้ายอดขายโนเกียคงจะเพิ่มไม่มากนัก" นี่คือเหตุผลสำคัญที่ผู้บริหารคนหนึ่งของไออีซีบอกว่า ทำให้ ไออีซี. ต้องดิ้นรนหาธุรกิจที่จะมาทดแทนการขายโนเกีย

ไออีซี. นั้นเป็นธุรกิจการค้ามาตั้งแต่แรก หลังจากที่หลุดออกจากอ้อมอกปูนซิเมนต์ไทย และเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว ก็มีความพยายามมาตลอดที่จะแตกแขนงธุรกิจให้กว้างขวางกว่าการเป็นผู้ซื้อมาขายไปเพียงอย่างเดียว แต่ดูเหมือนว่าความพยายามที่จะเจาะเข้าไปในส่วนของอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

จนกระทั่งมาได้เป็น "เซอร์วิส โพรไวเดอร์" ให้กับแทคนี่แหละ ที่นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ ไออีซี. ที่สามารถก้าวล่วงจากธุรกิจการค้า เข้ามาเป็นผู้บริหารระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งนับว่าเป็นการเข้ามาสู่ธุรกิจโทรคมนาคมในระดับที่สูงขึ้นกว่าการเป็นแค่คนขายเครื่อง

คำว่า "ตัวแทนเพื่อจัดให้บริการวิทยุคมนาคม" หรือ "เซอร์วิส โพรไวเดอร์" ให้กับบริษัท โทเทิล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเกชั่น ฟังดูแล้วเหมือนกับว่า ศักดิ์ศรีเป็นได้แค่พลเมืองชั้นสอง ต้องกินน้ำใต้ศอกแทค

แต่ชื่อนั้นสำคัญไฉนเล่า โดยเนื้อแท้แล้ว สถานะของ ไออีซี. ในวันนี้ก็คือผู้บริหารสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหนึ่งที่ทัดเทียมกับเอไอเอสหรือแทคนั่นเอง เพียงแต่ไม่ใช่เจ้าของสัมปทานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับ ทศท. หรือ กสท. เหมือนสองรายที่ว่านี้เท่านั้นเอง

โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 900 และ 800 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้น คือระบบอนาล็อก ในสัญญารับสัมปทานที่ เอไอเอส. กับแทคทำกับ ทศท. และ กสท. นั้นระบุว่า ภายในปี 2537 ทั้งสองรายจะต้องลงทุนสร้างเครือข่ายและให้บริการระบบดิจิตอล

ข้อดีของดิจิตอลก็คือ สัญญาณมีความคมชัดกว่าระบบอนาล็อค 4 เท่าตัว และสามารถรองรับบริการเสริมนอกเหนือจากโทรศัพท์ปกติได้มากกว่า

ค่าย 900 เลือกใช้ระบบดิจิตอลแบบ "จีเอสเอ็ม" (GSM GOLBAL SYSTEM FOR MOBILE) โดยใช้คลื่น 900 เหมือนเดิม ส่วนแทคใช้ระบบพีซีเอ็น ด้วยคลื่น 1800

ความจริงแล้ว การลงทุนและบริหารระบบดิจิตอล ควรจะแยกออกเป็นสัมปทานที่เป็นเอกเทศจากระบบ 900 และ 800 แบบอนาล็อค แต่ก็เป็นความฉลาดของทั้ง เอไอเอส. และแทค ที่สามารถรวบเอาทั้งสองระบบมาไว้ในสัญญาณฉบับเดียวกันและเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ ทศท. และ กสท. จะโดยตั้งใจหรือไม่ ก็สุดแท้แต่จะคิดกัน ที่ต้องสูญเสียสินทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้ให้อย่างมหาศาลไป

แต่ทางค่าย ไออีซี. นั้นมีมือกฎหมายชั้นเซียนที่อ่านสัญญาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง และสามารถพลิกแพลงตีความมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างเหนือชั้น

ตามข้อสัญญา เจ้าของสัมปทานคือ ผู้ที่ลงทุนสร้างเครือข่าย (NETWORK PROVIDER) และเป็นผู้บริหารเครือข่ายคนอื่น ๆ ไม่มีสิทธิ ไออีซี. จึงเลี่ยงโดยใช้คำว่า "เป็นตัวแทนให้บริการ" หรือเซอร์วิสโพรไวเดอร์ให้แทค ในนัยนี้ก็คือ แทคจะต้องจัดสรรเลขหมายให้ ไออีซี. 25% ของเลขหมายทั้งหมดโดยในปีที่ 1 จะต้องไม่น้อยกว่า 12,500 เลขหมาย ปีที่ 2 ไม่น้อยกว่า 35,000 เลขหมาย และปีที่ 3 ไม่น้อยกว่า 40,000 เลขหมาย โดยที่ทาง ไออีซี. จะต้องเป็นผู้ลงทุนสร้างเครือข่ายสถานี จัดการในเรื่องการเก็บเงิน การบริหารหนี้สิน และการบริการหลังการขายเอง เป็นเวลา 20 ปีตามอายุสัญญา

ผลประโยชน์ที่ต้องจ่ายให้แทคก็คือ 1.5% ของรายได้ซึ่งเท่ากับรายได้ที่แทคต้องเอาไปจ่ายให้ กสท. อีกทีหนึ่งประโยชน์ที่แทคจะได้จากข้อตกลงนี้ ไม่ใช่ตัวเงินมากมาย แต่ที่สำคัญคือโดยตัวเอง แทคไม่สามารถลงทุนในระบบดิจิตอลได้เองทั้งหมด เพราะต้องใช้เงินทุนมหาศาล ในขณะที่ต้องแข่งกับค่ายเอไอเอสด้วย การจับมือกับ ไออีซี.โดยยอมเฉือนสัมปทานบางส่วนให้ จึงเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อแบ่งเบาภาระการเงินและการตลาด

นอกเหนือจากรายได้ 1.5% ที่ในทางปฏิบัติแล้วแทคแทบจะไม่ได้อะไรเลย เพราะต้องจ่ายต่อให้กับ กสท. ไออีซี. ต้องจ่ายเงินก้อนหนึ่งเสมือนเป็น "แป๊ะเจี๊ย" ให้ แต่ไออีซี.ใช้วิธีเพิ่มทุน แล้วจ่ายเป็นหุ้น 4 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 50 บาทให้กับแทค

เงินสด ๆ ก็ไม่ต้องเสีย แถมยังดึงแทคเข้ามาร่วมหัวจมท้ายเป็นผู้ถือหุ้น 10% ใน ไออีซี. ได้ สัมปทานโทรศัพท์มือถือนั้นเป็นสินทรัพย์ที่เป็นที่หมายปองของใครต่อใครมากมายเพราะรายได้จำนวนมากในระยะเวลาที่ยาวนาน ที่ผ่านมามีความพยายามของกลุ่มธุรกิจหลายกลุ่มในการวิ่งเต้นเข้าหานักการเมืองเพื่อขอสัมปทาน

ว่ากันว่า เสียเงินสัก 1,000 ล้านบาท เพื่อแลกกับสัมปทานก็ยังนับว่าคุ้มเกินคุ้ม แต่ ไออีซี. ได้มาแบบเรียกได้ว่าฟรี ๆ ไม่ต้องควักเงินสักแดงเดียว สำหรับการเป็นเจ้าของสัมปทานรายที่ 3 ที่จะพลิกโฉมหน้าของตัวเอง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us