Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 พฤศจิกายน 2549
“มาม่า”ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปรับเกมต้นทุนพุ่ง-พร้อมลุยหนักตปท.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์

   
search resources

ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์, บมจ.
พิพัฒ พะเนียงเวทย์
Instant Food and Noodle




ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ประกาศนโยบายการตลาดปี 50 ขานรับเศรษฐกิจพอเพียงเฝ้าระวังสภาพเศรษฐกิจ ปรับเกมการลงทุน การตลาด เบรกความถี่ออกรสชาติใหม่ ลุยตลาดต่างประเทศอัดการครีเอทดีมานต์ ทะลวงไฮเปอร์มาร์เก็ตรับตลาดทั่วโลกโต10% ส่วนตลาดไทยโหนกระแสสุขภาพ ปีหน้าปั้นสินค้ามีโภชนาการติดสัญลักษณ์อาหารเพิ่มสารอาหาร(Nutrition seal)บนบรรจุภัณฑ์ ปีหน้าหวังกวาดรายได้ 7 พันล้านบาท

นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ประธาน บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดในปีหน้านี้ บริษัทจะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งในรูปแบบของการลงทุนธุรกิจเดิมที่มีอยู่หรือธุรกิจใหม่จะลงทุนอย่างพอดี โดยจะพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจและการตลาดเป็นหลัก ยกตัวอย่าง หากแนวโน้มตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโต 10% บริษัทจะลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักรชนิดเพิ่มความเร็วในการผลิตเป็น 4 แสนซองต่อ 8 ชั่วโมงในปีหน้านี้ แต่หากตลาดเติบโตเพียง 5% คาดว่าอีก 2 ปีถึงจะลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักรดังกล่าวมาผลิต

สำหรับแผนการออกรสชาติใหม่ก็จะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยลดการออกรสชาติใหม่ๆลงเหลือเพียง 2-3 รสชาติเท่านั้นจากเดิมเปิดตัว10 รสชาติ ขณะที่งบการตลาดปีหน้าบริษัทวางแผนใช้เท่าเดิม คือ 500 ล้านบาท เนื่องจากคาดการณ์ว่าสภาพตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ในปีหน้านี้การแข่งขันด้านราคาจะลดน้อยลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น โดยเฉพาะแป้งสาลีซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 65% จะมีราคาแพงขึ้นจากปีนี้ราคา 290 เหรียญสหรัฐต่อเมติกตันเพิ่มเป็น 390 เหรียญสหรัฐต่อเมติกตัน

**ลุยตลาดต่างประเทศรับเทรนด์ทั่วโลกโต**

นายพิพัฒ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดต่างประเทศในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วโลก มีอัตราการเติบโต 10% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความเร่งรีบในชีวิต และบะหมึ่ฯเป็นอาหารทึ่สะดวก ราคาไม่สูง ดังนั้นบริษัทได้ปรับแผนการตลาดต่างประเทศ จากเดิมทำตลาดในลักษณะตอบสนองความต้องการของตลาด มาเป็นการสร้างความต้องการใหม่ๆให้กับตลาด โดยการออกรสชาติเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะคนท้องถิ่น โดยเริ่มดำเนินการแล้วที่อเมริกา และยุโรปนอกจากนี้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ไฮเปอร์มาร์เก็ต ในประเทศเยอรมัน แคนาดา ฟินแลนด์ ออสเตรเลีย

ทั้งนี้บริษัทได้ปรับแผนการตลาดต่างประเทศเป็นเวลา 3 ปีแล้ว เพื่อรองรับกับการแข่นขันจากจำนวนคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นและจำนวนประชากรที่ไม่เพิ่ม นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมลงทุนในกัมพูชาและพม่าโดยเพิ่มเครื่องจักรผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในต้นปีหน้านี้ ดังนั้นจากการที่บริษัทหันมามุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ คาดว่าในปีหน้านี้รายได้จากการส่งออกจะเพิ่มเป็น 1,600 ล้านบาท จากในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1,000 ล้านบาท

**ผู้นำเทรนด์เติมสารอาหารบูมตลาดไทย**

สำหรับภาวะตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย ในช่วง 2 ปีตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีอัตราการเติบโตที่ดี สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่เปลี่ยนแปลงมากกว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจ โดยพบว่าปี 2548 ตลาดบะหมี่ฯโตเกือบ 10% และปี 2549 โต 7% เมื่อเทียบกับช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดมีอัตราการเติบโต 2-3% อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแนวโน้มการเติบโตจะมาจากกระแสสุขภาพ

ดังนั้นแนวทางการตลาดปีหน้านี้ จะเน้นบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปให้มีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมกันนี้ให้ได้เตรียมติดสัญลักษณ์อาหารเพิ่มสารอาหาร หรือ Nutrition seal จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ลงบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งการติดตราสัญลักษณ์ดังกล่าวทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัทสามารถพัฒนาโดยการเติมสารอาหารที่ร่างกายต้องการได้ เท่ากับว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า อาทิ การเสริมกรดอะมิโนไลซีนเพื่อปรับปรุงคุณภาพโปรตีนในบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นอัตราการบริโภคบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยจากเฉลี่ย 30 ซองต่อคนต่อปีให้เพิ่มขึ้น และรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 52-53%

**บริหารต้นทุนรับมือวัตถุดิบพุ่งปี50**

นายพิพัฒ กล่าวว่า เพื่อรับมือกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น บริษัทจึงได้บริหารต้นทุนโดยการโยกเครื่องจักรผลิตเวเฟอร์ ที่โรงงานศรีราชามาไว้ที่โรงงานจ.ระยองแทน เนื่องจากโรงงานศรีราชาใช้พลังงานจากไอน้ำ จึงช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ 5% ขณะเดียวกันก็ทุ่มงบ 185-200 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเวเฟอร์และคุ๊กกี้ใหม่ที่โรงงานจ.ระยอง ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 21 ตันต่อวันเป็น 42 ตันต่อวัน นอกจากนี้ยังได้ทุ่ม 100 ล้านบาทสั่งซื้อเครื่องจักรชนิดเพิ่มความเร็วผลิตเพิ่ม

สำหรับผลประกอบการบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปทั้งในและต่างประเทศโดยรวมปีนี้ ตั้งเป้ามีรายได้ 6,000 ล้านบาท และปีหน้าตั้งเป้ามีรายได้ 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุที่ปีหน้านี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 1,000 ล้านบาท มาจากการเพิ่มทุนบริษัทไดอิจิ แพกเกจจิ้งจาก 49% เป็นกว่า 50% และเพิ่มทุนบริษัทไทยซันจาก 49% เป็น 52% หรือจาก 20 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us