|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สิทธิไชย"อดีตมือดีวาณิชธนกิจ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ย้ายซบค่ายโบรกเกอร์มาเลเซีย บล.ซีไอเอ็มบี-เจเค(ประเทศไทย) ขณะที่"มนตรี"ยันไม่กระทบ เพราะมีทีมวาณิชธนกิจในปัจจุบัน 4 ทีมสามารถรองรับงานได้ เล็งปีหน้าเข็นหุ้นไอพีโอเข้าระดมทุน 3-5 บริษัท เตรียมจัดตั้งบลจ.ใหม่กลางปีหน้าเมินลงทุนต่างประเทศ เหตุสนใจลงทุนในประเทศมากกว่าเพราะค่าพี/อี เรโชอยู่ในระดับต่ำ
แหล่งข่าวจากวงการวาณิชธนกิจ เปิดเผยว่า นายสิทธิไชย มหาคุณ อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมงานกับบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี-จีเค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งไปเริ่มงานวันแรกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจะย้ายไปคุมงานในด้านวาณิชธนกิจ
ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ซีไอเอ็มบี-จีเค(ประเทศไทย) ถือเป็นโบรกเกอร์ที่มีซีไอเอ็มบี-จีเค พีทีอี. แอลทีดีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 99.99% โดยได้ซื้อใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของบล.บีเอ็นพี พารีบาส์ พีรีกรีน (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้ธนาคารซีไอเอ็มบีถือเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า แม้นายสิทธิไชยจะลาออกแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจด้านวาณิชธนกิจของบริษัทแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันนี้บริษัทมีทีมวาณิชธนกิจอยู่แล้ว 4 ทีมที่สามารถรองรับงานด้านวาณิชธนกิจได้และการลาออกของนายสิทธิไชยก็เป็นการจากกันด้วยดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
สำหรับธุรกิจด้านวาณิชธนกิจในปีหน้านั้น จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหลายด้านทั้งการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไอพีโอ ซึ่งคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนจำนวน 3-5 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่าปีนี้ เพราะหุ้นไอพีโอนั้นจะเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งคาดว่าปีหน้าทิศทางของภาวะตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ก็จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการหรือหาพันธมิตรเข้ามาร่วมถือหุ้น นอกจากนี้จะออกตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และเป็นที่ปรึกษาออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.มีแผนที่จะให้บริษัทหลักทรัพย์ไปลงทุนต่างประเทศนั้น นายมนตรีกล่าวว่า บริษัทมีความสนใจไม่มากนัก เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจ เนื่องจากค่าพี/อี เรโช ที่อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) วางเป้าหมายที่จะให้บริการด้านหลักทรัพย์ครบวงจร ดังนั้นจึงมีแผนที่จะจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมหรือ บลจ. ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งได้ภายในกลางปีหน้า ซึ่งตามเกณฑ์การจัดตั้งนั้นจะต้องมีทุนจะเบียนบลจ.ใหม่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งคงจะไม่มีปัญหา เพราะขณะนี้บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มีทุนจดทะเบียนประมาณ 4 พันล้านบาท สาเหตุที่จัดตั้งบลจ.เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุนมากขึ้น ในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำให้ผลตอบแทนที่ไม่สูงมากนัก
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล และการขอ เป็นผู้ค้าตราสารอนุพันธ์ เพราะปัจจุบันนี้บริษัทเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตการลงทุน จำนวน 50-60 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีนโยบายที่จะมีการเพิ่มพอร์ตการลงทุน แต่จะมีการเพิ่มก็ต่อเมื่อบริษัทมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น
นายมนตรี กล่าวถึงกลยุทธ์ในการที่บริษัทจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)อันดับที่1 นั้น โดยบริษัทจะเน้นในเรื่องการให้บริการลูกค้า คุณภาพการจัดทำบทวิเคราะห์ มีการหาสินค้าใหม่ที่ตรงกับความต้องการของนักลงทุน รวมถึงบริษัทได้มีการลงทุนในระบบการซื้อขายหุ้นผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อรองรับกับนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่มีความต้องการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต ประกอบกับบริษัทได้มีการนำบทวิเคราะห์ลงในเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อให้นักลง ทุนสามารถเข้ามาหาข้อมูลประกอบการลงทุนได้
ทั้งนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10-30% จากขณะนี้ที่ มี 60,000 บัญชี มีปริมาณการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ 50% โดยมีสัดส่วนลูกค้าเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ 25% นักลงทุนสถาบันในประเทศ 5% และนักลงทุนรายย่อย 70%
|
|
|
|
|