Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 พฤศจิกายน 2549
"สิทธิไชย"ย้ายซบโบรกฯมาเลย์กิมเอ็งยันไม่กระทบงานวาณิชฯ             
 


   
search resources

สิทธิไชย มหาคุณ
Funds




"สิทธิไชย"อดีตมือดีวาณิชธนกิจ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ย้ายซบค่ายโบรกเกอร์มาเลเซีย บล.ซีไอเอ็มบี-เจเค(ประเทศไทย) ขณะที่"มนตรี"ยันไม่กระทบ เพราะมีทีมวาณิชธนกิจในปัจจุบัน 4 ทีมสามารถรองรับงานได้ เล็งปีหน้าเข็นหุ้นไอพีโอเข้าระดมทุน 3-5 บริษัท เตรียมจัดตั้งบลจ.ใหม่กลางปีหน้าเมินลงทุนต่างประเทศ เหตุสนใจลงทุนในประเทศมากกว่าเพราะค่าพี/อี เรโชอยู่ในระดับต่ำ

แหล่งข่าวจากวงการวาณิชธนกิจ เปิดเผยว่า นายสิทธิไชย มหาคุณ อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมงานกับบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี-จีเค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งไปเริ่มงานวันแรกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจะย้ายไปคุมงานในด้านวาณิชธนกิจ

ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ซีไอเอ็มบี-จีเค(ประเทศไทย) ถือเป็นโบรกเกอร์ที่มีซีไอเอ็มบี-จีเค พีทีอี. แอลทีดีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 99.99% โดยได้ซื้อใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของบล.บีเอ็นพี พารีบาส์ พีรีกรีน (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้ธนาคารซีไอเอ็มบีถือเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า แม้นายสิทธิไชยจะลาออกแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจด้านวาณิชธนกิจของบริษัทแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันนี้บริษัทมีทีมวาณิชธนกิจอยู่แล้ว 4 ทีมที่สามารถรองรับงานด้านวาณิชธนกิจได้และการลาออกของนายสิทธิไชยก็เป็นการจากกันด้วยดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

สำหรับธุรกิจด้านวาณิชธนกิจในปีหน้านั้น จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหลายด้านทั้งการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไอพีโอ ซึ่งคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนจำนวน 3-5 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่าปีนี้ เพราะหุ้นไอพีโอนั้นจะเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งคาดว่าปีหน้าทิศทางของภาวะตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ก็จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการหรือหาพันธมิตรเข้ามาร่วมถือหุ้น นอกจากนี้จะออกตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และเป็นที่ปรึกษาออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.มีแผนที่จะให้บริษัทหลักทรัพย์ไปลงทุนต่างประเทศนั้น นายมนตรีกล่าวว่า บริษัทมีความสนใจไม่มากนัก เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจ เนื่องจากค่าพี/อี เรโช ที่อยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) วางเป้าหมายที่จะให้บริการด้านหลักทรัพย์ครบวงจร ดังนั้นจึงมีแผนที่จะจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมหรือ บลจ. ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งได้ภายในกลางปีหน้า ซึ่งตามเกณฑ์การจัดตั้งนั้นจะต้องมีทุนจะเบียนบลจ.ใหม่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งคงจะไม่มีปัญหา เพราะขณะนี้บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มีทุนจดทะเบียนประมาณ 4 พันล้านบาท สาเหตุที่จัดตั้งบลจ.เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุนมากขึ้น ในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำให้ผลตอบแทนที่ไม่สูงมากนัก

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล และการขอ เป็นผู้ค้าตราสารอนุพันธ์ เพราะปัจจุบันนี้บริษัทเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตการลงทุน จำนวน 50-60 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีนโยบายที่จะมีการเพิ่มพอร์ตการลงทุน แต่จะมีการเพิ่มก็ต่อเมื่อบริษัทมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น

นายมนตรี กล่าวถึงกลยุทธ์ในการที่บริษัทจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)อันดับที่1 นั้น โดยบริษัทจะเน้นในเรื่องการให้บริการลูกค้า คุณภาพการจัดทำบทวิเคราะห์ มีการหาสินค้าใหม่ที่ตรงกับความต้องการของนักลงทุน รวมถึงบริษัทได้มีการลงทุนในระบบการซื้อขายหุ้นผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อรองรับกับนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่มีความต้องการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต ประกอบกับบริษัทได้มีการนำบทวิเคราะห์ลงในเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อให้นักลง ทุนสามารถเข้ามาหาข้อมูลประกอบการลงทุนได้

ทั้งนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10-30% จากขณะนี้ที่ มี 60,000 บัญชี มีปริมาณการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ 50% โดยมีสัดส่วนลูกค้าเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ 25% นักลงทุนสถาบันในประเทศ 5% และนักลงทุนรายย่อย 70%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us