Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 พฤศจิกายน 2549
ฟันธงราคาน้ำมันปี’50เฉลี่ย25บาทบ.น้ำมันรับศึกแข่งขันเปิดปั๊ม24ชม.             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ปตท., บมจ.
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์
Oil and gas




“ปตท.”ประเมินราคาน้ำมันขายปลีกในไทยปี 2550 ไม่ต่างจากปีนี้มากเหตุดีมานด์โลกไม่ได้เพิ่มผิดปกติแต่ก็ไม่ได้ลดลงเฉลี่ยขายปลีกทั้งดีเซลเบนซินอยู่ที่บวกลบ 25 บาทต่อลิตร ขานรับเปิดปั๊ม 24 ชั่วโมงแต่คงเลือกเฉพาะทำเลที่เป็นเมืองใหญ่เป็นหลัก วงการน้ำมันชี้เปิดปั๊ม 24 ชม.มีผลให้ค้าปลีกจะกลับมาแข่งขันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ชี้ผลดีผู้บริโภคแต่ปั๊มอาจเป็นภาระมากกว่าเหตุแรงซื้อไม่ได้เพิ่มแต่ค่าจ้างเด็กปั๊มต้องเพิ่มขึ้น

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางราคาน้ำมันขายปลีกในไทยในปี 2550 คาดว่าจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับปี 2549 โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ประมาณ 56-60 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปทั้งดีเซล-เบนซินเฉลี่ยจะอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกในไทยเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณบวกลบ 25 บาท/ลิตร หากไม่มีการเร่งเก็งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมจากปัจจุบัน

“ ราคาน้ำมันในปีหน้าคงจะไม่ถูกกว่าในปีนี้เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ได้ดีนักจนทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นมากผิดปกติแต่ก็ไม่ได้ลดลงมากเช่นกัน โดยปตท.คงต้องปรับขึ้นน้ำมันตามทิศทางตลาด คงจะไม่เข้าแทกแซงเหมือนกับปีที่ผ่านมา”นายประเสริฐกล่าว

สำหรับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศขณะนี้คงจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจาก ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงทรงตัวระดับสูงแต่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากโดยเบนซินอยู่ที่ 64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดีเซล 71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันดิบอยู่ที่ 55-56 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ที่กว่า 1 บาท/ลิตร เป็นระดับที่ผู้ค้าน้ำมันพอรับได้

อย่างไรก็ตามปตท.พร้อมจะเปิดปั๊มน้ำมัน 24ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป แต่คงจะไม่เปิดปั๊มทั้งหมด คงจะเลือกเปิดในพื้นที่ที่เหมาะสมที่พื้นที่นั้นมีความต้องการน้ำมันในช่วงกลางคืน เช่น ในพื้นที่เมืองใหญ่ หรือพื้นที่ กทม.เป็นต้น โดยอาจจะเปิดประมาณ 30-40 % จากจำนวนปั๊มประมาณ 1,200 แห่ง

“ ผมคิดว่าการเปิดปั๊ม 24 ชั่วโมงคงไม่ได้ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่เป็นการทำให้ผู้บริโภคที่เดินทางกลางคืนมีความสะดวกสบายมากขึ้น และในส่วนของมินิมาร์ทก็น่าจะมีส่วนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นบ้าง ซึ่งเห็นว่าตลาดน้ำมันควรให้เป็นไปตามธรรมชาติ มีการแข่งขันอย่างเสรีทั้งในเรื่องของราคาและการค้า ซึ่งภาครัฐควรเข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลไม่ให้ผู้ค้าน้ำมันเอาเปรียบประชาชน โดยรัฐบาลชุดนี้ประกาศที่จะให้ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงตามตลาดโลกถือเป็นเรื่องที่ดี “ นายประเสริฐกล่าว

แหล่งข่าวจากวงการน้ำมัน กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลได้เห็นชอบในการยกเลิกบังคับปิดปั๊ม 22.00 น.-05.00 น. คาดว่าจะส่งผลให้การแข่งขันด้านค้าปลีกน้ำมันกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งซึ่งแต่ละค่ายคงจะต้องพิจารณาว่าคู่แข่งขันเปิดปั๊มบริเวณใดเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่การใช้น้ำมันจะมากขึ้นจากการที่ประชาชนจะเดินทางกลับไปภูมิลำเนาและการท่องเที่ยว

“ ผมคิดว่ามาตรการนี้เป็นผลดีกับผู้บริโภคที่จะสะดวกมากขึ้น แต่ในส่วนของบริษัทน้ำมันภาพรวมน่าจะเป็นภาระมากกว่าหากยอดการใช้น้ำมันรวมไม่ได้ปรับสูงขึ้นมากเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายด้านแรงงานเพิ่มขึ้น ซึ่งการเปิดปั๊มช่วงเทศกาลปีใหม่คงจะเน้นถนนสายหลักและดูคู่แข่งว่าเปิดจุดใดเป็นสำคัญ”แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้การเปิดปั๊ม 24 ชั่วโมงเชื่อว่าคงจะทำเฉพาะปั๊มที่มีทำเลดีที่จะคุ้มกับค่าแรงงานที่จะต้องเพิ่มขึ้นมาอีก 1 กะ(กะหนึ่งมี 8 ชั่วโมง) แต่บางปั๊มที่ยอดขายไม่ดีนักอาจจะเลือกปิดเที่ยงคืนมากกว่าซึ่งกรณีดังกล่าวก็จะเป็นการจ่ายค่าจ้างล่วงเวลาหรือ โอที   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us