ในวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็น "วันเอดส์โลก" เพื่อให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์ร่วมใจป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ในทั่วทุกมุมโลก ปีนี้ผู้คนในอเมริกามีส่วนร่วมทางอ้อมในการช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยโรคร้ายนี้ในแอฟริกา จากการชอปปิ้ง "โปรดักส์เรด" (Product RED) ซึ่งเป็นแบรนด์พิเศษที่ก่อตั้งขึ้นจากความคิดของโบโน ศิลปินดังแห่งวงยูทู ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการหาทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคร้ายในแอฟริกา (หากต้องการรู้จักโบโนมากขึ้น สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้จากเรื่อง Bono กับชีวิตที่ไม่ใช่เพียงแค่ร็อกสตาร์ ในนิตยสารผู้จัดการ เดือนกุมภาพันธ์ 2549

ทำไมต้องเป็น "เรด" หรือ "สีแดง" ทำไมไม่เป็นสีอื่น โบโนได้ให้คำตอบว่า "สีแดงเป็นสีแห่งความฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการเตือนใจว่า โรคเอดส์และโรคร้ายอื่นๆ เป็นวิกฤติการณ์ที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และมีคนจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ" ยิ่งกว่านั้นสีแดงยังคงเป็นสีแห่งความหวัง และความสดใสที่อยู่คู่กับโลกใบนี้ ไปตลอด

โบโนมีความเชื่อมั่นว่าพฤติกรรมการซื้อของคนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและประวัติศาสตร์บนโลกใบนี้ได้ แต่ทำอย่างไรถึงจะเข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้ได้ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตในตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดบริโภคที่มีพลังมากแห่งหนึ่งของโลกและทำอย่างไรถึงจะให้คนเหล่านี้มีส่วนร่วมในการบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยโรคร้ายจำนวนนับล้านๆ คนในแอฟริกา ที่ไม่มีโอกาสได้รับการรักษาหรือป้องกันเลย เขาต้องทำงานหนักมากในการเข้าล็อบบี้ผู้มีอำนาจทั้งการเงินและการเมืองในหลายระดับ ทั้งนี้เขาได้แรงสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก โรเบิร์ต หรือบ็อบบี้ ชไรเวอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิดาตา (DATA) บ็อบบี้เป็นแรงสำคัญในการสร้างแบรนด์พิเศษนี้ และรับหน้าที่เป็นซีอีโอของแบรนด์ด้วย บ็อบบี้เป็นสายเลือดหนึ่งของตระกูลเคนเนดี้ เขาเป็นลูกชายคนโตของ ยูนิส แมรี่ เคนเนดี้ ชไรเวอร์ (Eunice Mary Kennedy Shriver) ผู้เป็นน้องสาวของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้

โบโนและบ็อบบี้ใช้เวลา 2 ปีเต็มในการสร้าง "โปรดักส์เรด" ให้เป็นจริง ทั้งสองเข้าไปคุยกับบริษัทหลายบริษัท ซิลิบริตี้หลายคน เพื่อขอร้องให้พวกเขาช่วยกันรณรงค์หาเงินบริจาค โดยเบื้องต้น "โปรดักส์ เรด" ได้เซ็นสัญญาเป็นเวลา 5 ปีกับสินค้า 6 แบรนด์ชั้นนำที่จำหน่ายในอเมริกา ได้แก่ แก๊ป (Gap) โมโตโรล่า (Motorola) อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (American Express) คอนเวิร์ส (Converse) จีออร์จีโอ อาร์มานี่ (Giorgio Armani) และแอปเปิล (Apple) นอกจากนี้ ยังมีสื่อสาขาอื่นมาร่วมเป็นสปอนเซอร์ในโครงการนี้ด้วย ได้แก่ มายสเปสดอทคอม (MySpace.com) ทั้งนี้ รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่าย "โปรดักส์เรด" จะบริจาคเข้ามูลนิธิโกลเบิลฟันด์ (Global Fund)

สำหรับรายละเอียดสินค้าและการบริจาคในปีแรกนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายชายหญิงจากแก๊ป และจีออร์ จีโอ อาร์มานี่ โดยทั้งสองบริษัทบริจาคเป็นจำนวน 50% ของรายได้จากคอลเลกชั่น "โปรดักส์เรด" นอกจากนั้นยังมีรองเท้าคอนเวิร์สเรดมาร่วมบุญอีกด้วย ด้านสินค้าคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ มีบริษัทแอปเปิล ซึ่งส่งไอพอดนาโน รุ่น 4 และ 8 กิกะไบต์ และบัตรของขวัญไอทูน (iTune) สีแดงมูลค่า 25 เหรียญ เข้าร่วมแคมเปญ โดยจะบริจาครายได้เครื่องละ 10 เหรียญ ส่วนบริษัทโมโตโรล่า ส่งโทรศัพท์มือถือสีแดง 2 รุ่น เลเซอร์บางเฉียบ Red MOTORAZR V3m และสตูดิโอเรด ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ของโมโตโรล่าแก่ลูกค้าเรด ในขณะที่ธุรกิจการเงิน บริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรสเดินหน้าเข้ามาเป็นสมาชิกบริษัทแรก ส่งบัตรสีแดงสดมาร่วมแคมเปญ โดยบริจาค 1% ของยอดใช้จ่ายจากบัตรนี้

สำหรับคนดังที่เข้ามาช่วยโปรโมต "โปรดักส์เรด" ในเบื้องต้นนี้ได้แก่ สตีเวน สปิลเบิร์ก ผู้กำกับดังจากฮอลลีวูด นำทับนักแสดงหญิงชาย อาทิ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ คริส ร็อค เพเนโลเป ครูซ และ ดอน ชีดเดิล ดาราดังจากภาพยนตร์เรื่อง "Crash" ด้านนางแบบมีคริสตี้ เทอร์ลิงตัน ด้านนักร้องมี เอ็มเจบี ราชินีเพลงอาร์แอนด์บี และอโพโล โอโน่ นักกีฬาโอลิมปิกมาร่วมโพสในโปสเตอร์ โปรโมต "โปรดักส์เรด" ของค่ายแก๊ป โดยมีแอนนี่ ลิโบวิทซ์ ช่างภาพมือโปรแห่งนิตยสารโรลลิ่งสโตน เป็นผู้ถ่ายภาพชุดพิเศษนี้

หลังจากเปิดตัว "โปรดักส์เรด" ในอเมริกาไปที่ชิคาโก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา โบโนมีโอกาสได้พบประธานาธิบดีจอร์ช ดับเบิลยู บุช บนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ส วัน เขาได้รายงานความสำเร็จให้ทราบเพราะหลายครั้งหลายคราในการล็อบบี้ให้รัฐบาลนี้ส่งเงินช่วยเหลือแอฟริกาให้มากขึ้น เขาได้แต่คำตอบที่ท้าทายกลับมาทุกครั้งว่า "ไปขอให้ภาคธุรกิจบริจาคบ้างสิ" งานนี้เขาทำสำเร็จ เขาจึงต้องการให้ประธานา ธิบดีช่วยใส่เสื้อยืด "โปรดักส์เรด" หรือใช้สินค้า "โปรดักส์เรด" อื่น เพื่อเป็นการโปรโมตให้คนหันมาใช้สินค้านี้ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดเงินช่วยเหลือที่จะส่งตรงให้แก่มูลนิธิโกลเบิล ฟันด์ ในการช่วยเหลือประเทศในแอฟริกา ข้อความที่โบโนส่งให้ผู้นำประเทศอเมริกาในขณะนี้ เหมือนจะเป็นกันเอง แต่จริงๆ แล้วเป็นการหยิกแกมหยอกมากกว่า

"โปรดักส์เรด" ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการตลาดและการกุศลของอเมริกา ที่การใช้ศาสตร์ทางการตลาดให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ผู้ผลิตยอมตัดกำไรของตนเองในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ยากไร้ ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็มีส่วนในการร่วมบริจาคโดยตรงจากการอุดหนุนสินค้า เรียกว่า เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่รอบนี้คนอเมริกันมีโอกาสทำบุญกันมากกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน