ด้วยความที่เป็นคนหนุ่มไฟแรง อายุไม่ถึง 30 ร่ำเรียนวิชาวิศวกรรมโยธาในระดับมหาวิทยาลัยในปีแรกเพียงวัยเริ่มต้น 14 ขวบ ก่อนควบปริญญาอีกใบด้วยสาขาบัญชีจากออสเตรเลีย ปัจจุบันมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของกิจการที่กำลังเติบโตและขายแฟรนไชส์ไปได้หลายประเทศทั่วโลก ทำให้ Daniel Evans ซีอีโอของบริษัท XO Company Limited ดูเหมือนจะโดดเด่นขึ้นมาในทันที

หลังจากเริ่มธุรกิจของ XO เมื่อปี 2543 เพื่อให้บริการระบบซอฟต์แวร์ด้าน barter trade ต่อมาจากนั้นไม่นาน เขาก็เริ่มแตกไลน์ธุรกิจ โดยก่อตั้ง Ozone Barter ขึ้นมาอีกหนึ่งบริษัท เพื่อสอดรับกับกิจกรรมการขายแฟรนไชส์ เว็บไซต์แลกเปลี่ยนสินค้าภายใต้ชื่อ Ozone ไปยังประเทศต่างๆ

ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้มีพนักงานกว่า 30 ชีวิต และกว่า 26 คนในจำนวนนั้นถือสัญชาติต่างกันทั้งสิ้น อันเป็นผลจากการขยายธุรกิจออกไปยังประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบัลแกเรีย มาเลเซีย รัสเซีย แอฟริกาใต้ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อิรัก อินเดีย จีน บราซิล หรือแม้แต่พนักงานคนไทย

Daniel มีแนวความคิดว่าเว็บไซต์แลกเปลี่ยนของแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนแลกเปลี่ยนสินค้าของตนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่ยังคุณภาพดี บางทีก็ผลิตในจำนวนที่มากกว่าปกติ ถือเป็นการบริหารสินค้าคงคลังให้กับบริษัท แถมไม่ใช้เงินสดแต่ได้ของที่ต้องการ และจำหน่ายของที่คงค้างออกไปโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายเพราะของค้างสต็อกอีกด้วย

ในทางเดียวกันยังเป็นการแลกเปลี่ยนโฆษณาสินค้าของตนไปยังเครือข่ายหรือสมาชิก เป็นการหาพันธมิตรในการทำธุรกิจทางอ้อม

โดยในปีที่ผ่านมาเฉพาะนิวซีแลนด์ประเทศเดียวมีวงเงินของการ trade สินค้าระหว่างสมาชิกด้วยกันมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์เลยทีเดียว

Daniel และบริษัทยังขยายขอบเขตการทำธุรกิจด้วยการจัดสัมมนา และงานประชุม เพื่อนัดหมายสมาชิกในเครือข่ายเพื่อพบปะกันเป็นระยะ มีการส่งจดหมายข่าวอิเล็กทรอนิกส์และอีเมลชักชวนให้มีการแลกเปลี่ยนสินค้า และที่ดูเหมือนจะก้าวหน้าที่สุดคือการเปิดให้ บริการบัตรที่เรียกว่า Ozone Barter card

บัตรสมาชิกที่สมาชิกสามารถใช้ซื้อสินค้าระหว่างกันโดยผ่านเครื่องรูดบัตรเหมือนบัตรเครดิตได้ทันที โดยเพิ่งทำการทดสอบระบบในประเทศนิวซีแลนด์เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยบัตรนี้ใช้งานได้คล้ายคลึงกับบัตรเครดิตแต่อาศัยการคิดเงินจากระบบของการแลกเปลี่ยนแทน

เขาผู้นี้ถือเป็น CEO รุ่นใหม่ที่มักพบเห็นได้ไม่ยากในวงการไอที หลายครั้งเรามักพบเห็นผู้นำบริษัทเหล่านี้มีอายุอานามไม่มากนัก แต่มักประสบความสำเร็จอยู่บ่อยครั้ง

ที่สำคัญในฐานะของ CEO ของบริษัทที่ให้บริการแลกเปลี่ยนสิ่งของ การทำให้กิจกรรมการแลกเปลี่ยนของบนเว็บไซต์ซึมลึกเข้าไปในองค์กรนับเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ค่าจ้างที่ถือว่าแพงลิ่ว

ทุกวันนี้ Daniel ให้พนักงานทำงานในหน้าที่ที่นอกเหนือจากที่รับผิดชอบ หรือทำกิจกรรมอื่นแลกเปลี่ยนกับแต้มสะสมที่จะเกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนสินค้าหลายๆ อย่างได้บนเว็บไซต์ แม้แต่การพาบรรดาสื่อมวลชนจากเมืองไทย เที่ยวตระเวนชมกิจการของบริษัท นั่นก็ถือเป็นการแลก spare time ของเขากับข้าวของหรือสิ่งของที่จะได้จากบนเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน

นี่กระมัง CEO รุ่นใหม่ที่มักมองเห็นการณ์ไกลผิดกับอายุที่ยังน้อยของเขา...