Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 พฤศจิกายน 2549
ราคาหุ้นUKEMเทรดวันแรกต่ำจอง12สต.ผู้บริหารเผยปีหน้าโต20%เล็งลงทุนเพิ่ม             
 


   
search resources

Chemicals and Plastics
Stock Exchange
ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล, บมจ.




UKEM เทรดวันแรกปิดต่ำกว่าราคาจอง 12 สตางค์ แม้ราคาระหว่างวันสูงสุดดันไปที่ 2.62 บาท ขณะที่ผู้บริหารแจงแม้ราคาจะไม่ปรับเหนือราคาจองแต่แนะให้นักลงทุนดูในระยะยาว มั่นใจทั้งปีโกยยอดขายได้ 1,800 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนทำได้แล้วถึง 1,400 ล้านบาท ส่วนปี 50 คาดเติบโตอีก 20% และอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อทำไบโอดีเซล คาดชัดเจนปีหน้า พร้อมกันงบลงทุนเกือบ 30 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตถังผสมเคมี-นำเข้าสินค้าใหม่ บล.โกลเบล็ก แนะลงทุนราคาเหมาะสม 2.60 บาท สำหรับปี 49 และให้ราคาปี 50 ที่ 3.19 บาท

ราคาหุ้น UKEM หรือ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด(มหาชน) วานนี้เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นวันแรก เปิดตลาดที่ราคา 2.48 บาทต่ำกว่าราคาหุ้นจองที่ 2.52 บาท แต่หลังเปิดเทรดไม่นานราคาหุ้นปรับขึ้นไปที่ 2.60 บาท ถือว่าเป็นราคาสูงสุดของการซื้อขายช่วงเช้า ก่อนปิดตลาดช่วงบ่ายที่ราคา 2.40 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ 4.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 195.98 ล้านบาท เป็นหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุดของตลาดmai และดัชนีตลาดขยับไปที่ 191.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.25 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายรวม 238.19 ล้านบาท

นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี รองกรรมการผู้จัดการ UKEM เปิดเผยว่าพอใจกับระดับราคาหุ้นที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ แม้ว่าจะไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นยืนเหนือราคาจองที่ 2.52 บาทต่อหุ้นได้ เนื่องจากเชื่อว่านักลงทุนให้การยอมรับจากพื้นฐานธุรกิจพอสมควร ส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาไม่เคลื่อนไหวโดดเด่นเป็นเพราะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งต้องการให้นักลงทุนดูในระยะยาวเพราะเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนในลักษณะดังกล่าว

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เชื่อว่ายังขยายตัวดีโดยเฉพาะกำไรสุทธิที่คาดว่าจะใกล้เคียงไตรมาส 3 ที่มีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทั้งปีบริษัทวางเป้ายอดขายไว้ที่ 1,800 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 1,500 ล้านบาท โดยจากงวด 9 เดือนที่ผ่านมามียอดขายแล้ว 1,400 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าทั้งปียอดขายจะเป็นไปตามเป้า ขณะที่ปีหน้าวางเป้ายอดขายเติบโต 20%จากปีนี้เนื่องจากมีการขยายฐานลูกค้ารวมถึงนำเข้าสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง

นายพีรเจตกกล่าวด้วยว่าบริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจไบโอดีเซล ซึ่งอาจเป็นการลงทุนร่วมกับพันธมิตรที่มีความชำนาญโดยคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในปีหน้า

" ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาถึงการใช้งบลงทุน แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ซึ่งเราก็มีการนำเข้าวัตถุดิบอยู่แล้ว แต่คงต้องดูในเรื่องของดีมานส์และซัพพลายอีกครั้งปีหน้าอาจจะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้น " นายพีรเจตกล่าว

สำหรับในปี 2550 นั้น UKEM วางงบลงทุน 20-30 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในการขยายการผลิตถังผสมเคมีจำหน่ายให้แก่ธุรกิจหมึกพิมพ์ 8-9 ล้านบาท ซื้อรถบรรทุกเพื่อขนส่งสินค้าจำนวน 2 คันจาก ปัจจุบันที่มีอยู่ 15-16 คัน ประมาณ 6 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้นำเข้าสินค้าใหม่ โดยเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวนำมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ขณะที่งบลงทุนปีหน้าที่วางไว้ดังกล่าว ซึ่งในส่วนการขยายกำลังการผลิตถังผสมเคมีอยู่ระหว่างขอใบอนุญาต คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมและพร้อมผลิตได้ในเดือนมกราคม 2550

บล.โกลเบล็ก ให้ราคาเหมาะสม 2.60 บาทสำหรับปี 49 ประเมินมูลค่าพื้นฐานจากวิธี PER โดยอิงจาก PER ที่ประมาณ 9 เท่าเนื่องจากเป็นบริษัทที่เติบโตสูง ได้มูลค่าเหมาะสมปี 49ที่ 2.60 บาทและราคาปี 50 ที่ 3.19 บาท หรือคิดจาก DCF ใช้ WACC ที่ 8.5% ได้ราคาเหมาะสมปี 49 ที่ 3.23 บาท

โดยจะเติบโตตามภาวะอุตสาหกรรมสี เพราะยอดขายเกือบ 50% มาจากอุตสาหกรรมสีซึ่งใช้สารทำละลาย (Solvent) เป็นส่วนประกอบหลักเพื่อทำหน้าที่ละลายสีและส่วนประกอบอื่นๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยอุตสาหกรรมสีจะมีการเติบโตตามภาวะของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดว่าน่าจะขยายตัวได้ในระดับ 8-10%ในปี50 และยังได้แรงหนุนการเติบโตจากเคมีภัณฑ์จำพวก Specialty Solvents และ Specialty Chemicals อีกด้วย ขณะที่ราคาสารละลาย (Solvent) มีความผันผวนตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ราคาวัตถุดิบของบริษัทจะขึ้นอยู่กับภาวะของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบจะทำให้ราคาต้นทุนในการผลิตปิโตรเคมีสูงขึ้น และราคาขายของบริษัทจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในประเทศ หากต้นทุนสูงก็ปรับราคาได้ตาม แม้ว่าราคา คาดกำไรสุทธิปี 49 จะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 48 เนื่องจากการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นก็ปรับเพิ่มขึ้นได้ ทำให้คาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปี 49 จะอยู่ที่ประมาณ 2.25% จากปี 48 ที่ 0.45% ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 49 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 507%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us