เมโทร สตาร์ รุกตลาดอสังหาริมทรัพย์เต็มสูบ ลุยคอนโดฯระดับกลาง หลังตลาดระดับบนชะลอ ประเดิมโครงการแรก“เมโทร อเวนิว รัชโยธิน” มูลค่า 4,500 ล้านบาท พร้อมเปิดกว้างรับพันธมิตรข้ามชาติ หวังเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน และโนฮาว

การชูจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการที่ดีเวลลอปเปอร์ต่างงัดออกมาเป็นจุดขายมีให้เห็นมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่สถานการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นับวันจะเปลี่ยนไป โดยหันมาสนใจโครงการที่อยู่ในเมืองและการเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น

จุดนี้เองที่ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายราย มองหาที่ดินที่เกาะติดแนวรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ทั้งโครงการรถไฟฟ้าเส้นปัจจุบันและเส้นที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อดักกำลังซื้อ โดยเฉพาะในช่วงน้ำมันแพง โดยยังคงให้น้ำหนักกับการลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมเป็นหลัก

บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นดีเวลลอปเปอร์อีกรายหนึ่งที่มองว่าการมีส่วนต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้า BTS โดยเฉพาะสายสีเขียวเข้มนั้น จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารชุด จึงได้ลงทุนซื้อที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน ซอย 30 อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้ารัชโยธินที่มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะดำเนินการในนอนาคตอันใกล้นี้

รัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนลงทุนโครงการใหม่มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับกลางชื่อโครงการเมโทร อเวนิว รัชโยธิน (Metro Avenue Ratchayothin) เป็นอาคารชุดพักอาศัย 4 อาคาร จำนวน 1,500 ยูนิต สูง 24 ชั้น ราคาเริ่มต้น 1.6-4 ล้านบาท หรือตารางเมตรละ 59,000 บาท มูลค่า 4,500 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 13 ไร่ จากเนื้อที่ทั้งหมด 15 ไร่ เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ คาดว่าจะปิดการขายได้ภายใน 6 เดือน

สำหรับพื้นที่อีก 2 ไร่ที่เหลือด้านหน้า บริษัทฯมีแผนจะพัฒนาโครงการประเภทคอมเมอร์เชียล เพราะบริเวณที่ตั้งโครงการอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่คอมเมอร์เชียลหลายแห่ง เช่น เมเจอร์ รัชโยธิน และห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นต้น

“ การเปิดตัวโครงการใหม่ ถือเป็นการเปิดตัวโครงการระดับกลางครั้งแรก โดยจะใช้แบรนด์ใหม่ คือเมโทร อเวนิว เพื่อให้เกิดความชัดเจนระหว่างแบรนด์ระดับกลาง และระดับบน โดยระดับบน ยังคงใช้แบรนด์เมโทร สตาร์”

รัตนชัย กล่าวอีกว่า เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน บริษัทจได้จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา คือ บริษัท เมโทร อเวนิว จำกัด เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคตทั้งในกรุงเทพฯและตามจังหวัดท่องเที่ยว

ส่วนแผนการจับมือกับพันธมิตร ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคุณสมบัติ โดยบริษัทต้องการพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการก่อสร้าง การบริหารจัดการที่ดี รวมทั้งมีฐานการเงิน ที่สำคัญจะช่วยทำตลาดด้วย เพราะโครงการของบริษัทหลายแห่ง เน้นกลุ่มลูกค้าต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม พันธมิตรอาจจะมีคุณสมบัติเด่นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้

โดยมีกลุ่มทุนที่สนใจจะเข้าร่วมลงทุนด้วย เป็นกลุ่มทุนข้ามชาติทุกราย ได้แก่ สิงคโปร์ 2 ราย เยอรมัน 1 ราย และญี่ปุ่น 1 ราย โดยกลุ่มทุนสิงคโปร์สนใจลงทุนในธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า และโรงแรม ส่วนเยอรมัน สนใจทำอาคารสำนักงาน ขณะที่ญี่ปุ่นสนใจทุกธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนดี คาดน่าจะเห็นความชัดเจนในต้นปีหน้า ส่วนสาเหตุที่กลุ่มทุนต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนด้วยนั้น เพราะบริษัทมีที่ดินในย่านซีบีดีหลายแปลง เช่น สีลม สุขุมวิท สาทร นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาขอซื้อที่ดินอีก 3 แปลง บริเวณรัชดาภิเษก ย่านสุขุมวิท และย่านลาดพร้าว ซึ่งทุกแปลงตั้งอยู่เกาะแนวรถไฟฟ้า