Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 พฤศจิกายน 2549
บิ๊กMCSเทขายหุ้นเกือบ70ล้านเล็งทิ้งอีก9%มุ่งเพิ่มสภาพคล่อง             
 


   
search resources

Stock Exchange
เอ็ม.ซี.เอส.สตีล, บมจ.




ผู้บริหาร"เอ็ม.ซี.เอส.สตีล” ฉวยช่วงประกาศงบการเงินปล่อยหุ้นเพิ่มสภาพคล่อง โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึง 20 พ.ย.ขายหุ้นไปแล้วจำนวน 69.54 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 261 ล้านบาท แย้มมีโอกาสขายหุ้นอีก 9% ตั้งเป้าถือหุ้นในระดับ 30% ส่วนธุรกิจเอ็ม.ซี.เอส.สตีล คาดรายได้ปี50โต10-20% เหตุ มีคำสั่งสิ้นค้าแล้ว 8 หมื่นตัน แย้มปีนี้จ่ายปันผลมากกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่"ชยุตม์ ลี้อิสสระนุกูล "นักลงทุนรายใหญ่ เข้าเก็บวอร์แรนต์นวนครเพิ่มขึ้นเป็น 11.82%

จากข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ59-2)ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)แจ้งว่า นายไนยวน ชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MCS ได้มีการขายหุ้นออกมาตั้งแต่ต้นปี2549 ถึง 20 พฤศจิกายน จำนวน 69.54 ล้านหุ้น ช่วงราคาที่ขายอยู่ที่ 3.60-3.90 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงิน 261.36 ล้านบาท ทำให้ภายหลังการขายหุ้นครั้งนี้กลุ่มของนายไนยวน ชิ ถือหุ้นเหลือ 194.42 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 38.88%

นายไนยวน ชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้มีการขายหุ้นของบริษัทออกมา เนื่องจากเป็นการเพิ่มสภาพคล่องหุ้นของบริษัทให้มากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท ซึ่งตนมีนโยบายการถือหุ้น 30% ซึ่งขณะนี้ถืออยู่38.88% ซึ่งยังสามารถขายหุ้นออกมาได้อีก

“การที่ผมมีการขายหุ้นออกมาเพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้หุ้นของบริษัท ซึ่งหากถือหุ้นในสัดส่วนที่สูงก็ไม่ได้เกิดผลดี และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนก็ถือว่าเป็นการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งเมื่อมีการประกาศงบการเงินออกมาผมก็จะมีการขายออกมาบ้างในช่วงราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น” นายไนยวน ชิ กล่าว

สำหรับในสัปดาห์นี้ตนจะเดินทางไปประเทศจีน ญี่ปุ่น เพื่อไปเจรจากับบริษัทและนักลงทุนที่ให้ความสนใจที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น เข้ามาทำงานร่วมกัน หาลูกค้าในต่างประเทศให้กับบริษัท หรือ เข้ามาลงทุนหุ้นของบริษัท ซึ่งหากมีนักลงทุนสนใจบริษัทพร้อมเปิดโอกาสให้เข้ามาลงทุน

ทั้งนี้บริษัทคาดว่าปี2550จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10-20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 2,700 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้มีคำสั่งซื้อสินค้าแล้วจำนวน 80,000 ตันที่จะทยอยรับรู้ถึงเดือนมีนาคม 2551 และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าที่ประเทศจีน ประเทศในแถบเอเชียใต้ ซึ่งจะมีคำสั่งซื้อสินค้ารายละประมาณ 50,000-60,000 ตัน

นายไนยวน ชิกล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดสิ้นปี2549ให้กับนักลงทุนมากกว่าการจ่ายปันผลในงวดผลประกอบการปีที่ผ่านที่จ่าย 0.30 บาทต่อหุ้น เนื่องจาก 9 เดือนแรกบริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 287.53 ล้านบาท มากกว่ากำไรสุทธิทั้งปี2548ที่มี 281 ล้านบาท โดยบริษัทได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับนักลงทุนไปแล้วจำนวน 0.15 บาทต่อหุ้น

รายงานข่าวจากสำนักงานก.ล.ต.ยังได้แจ้งว่านายชยุตม์ ลี้อิสสระนุกูล ได้มาใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือวอร์แรนต์ของบริษัทนวนคร หรือ NNCL-W1 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 จำนวน 24.65 ล้านหน่วยหนือ 5.09% ทำให้ภายหลังการได้มานายชยุตม์ ถือวอร์แรนต์ของบริษัทนวนคร จำนวน 57.25 ล้านหุ้นหรือ 11.82%โดยก่อนหน้านี้นายชยุตม์ได้เข้ามาซื้อวอร์แรนต์ของบริษัทนวนคร เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนจำนวน 6.23%

อนึ่งจากข้อมูลของสำนักงานก.ล.ต.พบว่า นายชยุตม์ ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่เคยเข้ามาซื้อหุ้นบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)หรือIEC เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2549 และได้เข้ามาซื้อบริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ BNT ซึ่งถือได้เพียง 3 วันต่อมาก็ได้ขายหุ้นออกมา รวมถึงได้เข้ามาซื้อหุ้นบริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน)หรือ EMC และวอร์แรนต์บริษัทอีเอ็มซี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us