TKS คาดปี50 ธุรกิจการพิมพ์ขยายตัวได้ถึง 20% หากเศรษฐกิจในประเทศเติบโตที่ระดับ 5% เชื่อธุรกิจสิ่งพิมพ์ของบริษัทในอนาคตโตได้ถึง 30% เผยหลังบริษัทได้รับ 3 รางวัลรวด จากงานประกวดสิ่งพิมพ์เอเชีย 4th ASIAN PRINT AWARDS 2006 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นใบเบิกทางที่ช่วยขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์สู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ และเป็นโอกาสที่จะได้รับงานมากขึ้น มั่นใจสิ้นปีดันรายได้สิ่งพิมพ์ทะลุ 1 พันล้านบาท

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ที. เค. เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (TKS) เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่าในปี 2550 จะทำรายได้จากธุรกิจการพิมพ์ขยายตัวได้ถึง 20% แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศยังขยายตัวไม่ได้อย่างเต็มที่เพราะยังรับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 5% ขึ้นไปเชื่อว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์ของบริษัทจะเติบโตได้ถึง 30% ในอนาคต

ทั้งนี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปีคาดว่าบริษัทจะสามารถทำรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์อีกประมาณ 150-200 ล้านบาท จากช่วง 9 เดือนที่บริษัทมีรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์อยู่ที่ 729 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจนถึงสิ้นปีบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปี 2548 ที่มีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ที่ผ่านมาของบริษัทพบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 13.88 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 23.86 ล้านบาท หรือลดลง 41.80% อันเป็นผลจากในไตรมาสนี้ บริษัทได้ย้ายโรงงานจากจังหวัดเพชรบุรีมาอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้ต้องหยุดการผลิตบางส่วนเป็นระยะเวลา 15 วัน ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เปิดทำการผลิตในโรงงานแห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว

นายสุพันธ์กล่าวต่อว่าเมื่อเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศผลการประกวดสิ่งพิมพ์เอเชีย ครั้งที่ 4 ประจำปี 2549 หรือ 4th ASIAN PRINT AWARDS 2006 ซึ่งจัดขึ้นที่ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยในงานประกวดดังกล่าวบริษัทฯ ได้รับรางวัลถึง 3 รางวัลฃชนะเลิศ ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศบนเวทีระดับภูมิภาคเอเชีย

" การได้รับรางวัลของ TKS ในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จในเวทีระดับภูมิภาค ทำให้มั่นใจได้ว่างานพิมพ์ของเราไม่ได้ด้อยกว่าประเทศใดในภูมิภาคนี้ ดังนั้น หลังจากนี้น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของบริษัทได้มากยิ่งขึ้น และถือเป็นใบเบิกทางที่จะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ "

นายสุพันธุ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันธุรกิจการพิมพ์ของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การพิมพ์ทั่วไป และการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งประกอบด้วย งานพิมพ์ปลอดการทำเทียม และงานพิมพ์ดิจิตอล โดยหลังจากที่โรงงานแห่งใหม่ของบริษัทได้เปิดเดินเครื่องอย่างเต็มรูปแบบแล้ว บริษัทจะขยายธุรกิจการพิมพ์ในกลุ่มเทคโนโลยีระดับสูงเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีผู้ประกอบการเพียงน้อยรายทำให้การแข่งขันไม่รุนแรง โดยทางบริษัทเน้นการพัฒนาสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับสิ่งพิมพ์แบบเดิม