การบินไทยตั้งเป้ารายได้ปี 2550 แตะ 2 แสนล้านบาทหลังผลประกอบการปี 2549 ทะลุ 1.78 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี ก่อน 9.9 % ประกาศจ่ายปันผล 1.65 บาทต่อหุ้น "ชลิต"เผยการปฎิบัติงานดีเยี่ยม ทั้งการซ่อมบำรุงและการตรงต่อเวลา ทำให้ปี 50 จ่ายเบี้ยประกันลดลง "อภินันท์" ตั้งทีมเจรจาแอร์บัส ต่อรองชดเชยส่ง A380 ล่าช้าแต่ไม่เปลี่ยนรุ่นปรับแผนใช้ในปี 2554 แทน
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (22 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลประกอบปี 2549 (ต.ค.48-ก.ย.49) โดยมีรายได้รวม 178,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548จำนวน 16,119 ล้านบาทหรือ 9.9% มีกำไรก่อนหักภาษี 12,822 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,916 ล้านบาท หรือ 29.4% มีกำไรสุทธิ 8,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,215 ล้านบาท หรือ 32.7% โดยมีกำไรต่อหุ้น 5.29 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.29 บาท ซึ่งจะสามารถจ่ายปันผลได้1.65 บาทต่อหุ้น หรือ คิดเป็นเงินรวม 2,900 ล้านบาท ส่วนปีก่อนบริษัทจ่ายปันผลที่ 1.50 บาทต่อหุ้น ส่วน โบนัสของกรรมการ นั้น ได้อนุมัติเท่ากับปี ก่อน คือ 0.5% ของเงินปันผลรวมหรือประมาณ 14 ล้านบาท ซึ่งบอร์ดจะได้รับคนละประมาณ 933,333 บาท
ทั้งนี้ในปี 2550 บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ไม่น้อยกว่า 2แสนล้านบาท นอกจากนี้ บอร์ดได้เห็นชอบให้บริษัท ปรับรอบบัญชีใหม่โดยจะเริ่มเป็นวันที่ 1 ม.ค. 2551 เป็นต้นไป จากเดิมที่เริ่ม 1 ต.ค. ของทุกปี และจากการปฎิบัติการที่ดีส่งผลถึงการซ่อมบำรุง ซึ่งสร้างความพึงพอใจกับผู้โดยสารต่างชาติ ซึ่ง ส่งผลให้บริษัท ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยในปี 2550 ลดลง เหลือ 29 ล้านเหรียญสหรัฐส่วนปี 2549 จ่ายเบี้ย 36 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามในปี 2550 บริษัทเน้นเรื่องการขนส่งสินค้าทางอากาศด้วยซึ่งจะมีการปรับปรุงการบริหารจัดการพื้นที่ใต้ท้องเครื่องบินโดยสาร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าให้เต็ม 100% ในระหว่างที่ยังไม่สามารถเพิ่มเครื่องบินขนส่งสินค้าโดยเฉพาะได้
"ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ประเมินได้จากการปฎิบัติงาน ทุกด้านทั้งด้านการซ่อมบำรุง ด้านความปลอดภัยทางการบิน อัตราการตรงต่อเวลา"
สำหรับปัญหาที่บริษัทแอร์บัสอินดัสตรี้ จำกัด เลื่อนกำหนดส่งมอมเครื่องบิน แอร์บัส รุ่น A380 ออกไปอีก 22 เดือนนั้น พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า เรืออากาศโทอภินันท์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กำลังตั้งกรรมการสำรวจผลค่าเสียหาย ที่เกิดจากความล่าช้า เพื่อเจรจาต่อรองกับ แอร์บัส และกรรีนี้ทุกประเภทที่สั่งซื้อเครื่องจากแอร์บัสได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด
เรืออากาศโทอภินันท์กล่าวว่า บริษัทต้องปรับแผนการใช้เครื่องบินแอร์บัส 380 ออกไป เป็นปี 2554 จากกำหนดเดิมคือปี 2552 หรือล่าช้าประมาณ 22 เดือน โดยจะต้องเจรจาเรื่องค่าชดเชยความเสียหาย ซึ่งจะต้องไม่น้อยกว่า สิงคโปร์ปอร์ไลน์และแควนตัสได้รับ โดยบริษัทยังไม่ปรับเปลี่ยน รุ่นเครื่องบินเพราะได้กำหนดชัดเจนแล้วว่าจะใช้เครื่องบิน A 380 มาใช้ทำการบินเพื่อเพิ่มความจุที่นั่งเนื่องจากเครื่องบินมีขนาดใหญ่ ทั้งนี้การได้รับมอบช้าก็ทำให้รายได้เพิ่มช้าลงแต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย
ส่วนปี 2550 นั้น กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทยกล่าวว่า ต้องการเน้นเรื่องการขนส่งสินค้าหรือ เครื่องบินเฟดเตอร์มากขึ้นเนื่องจากการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย สูงมาก ตลาดจีน โตเกิน 10% แต่ปัญหาคือ ไม่สามารถจัดหาเครื่อง เฟดเตอร์ได้เพราะโปรแกรมการผลิตของผู้ผลิตเต็มไปจนถึงปี2552 ซึ่งการจัดหาเครื่อง เฟดเตอร์ของบริษัทต้องคำนึงถึง แบบเครื่องยนต์ เพื่อให้เป็นแบบเดียวกับที่มีอยู่ในฝูงบินเพื่อให้สามารถใช้นักบินชุดเดียวกันได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายอมรับว่า บริษัทล้มเหลวเรื่องเฟดเตอร์ เพราะใช้วิธีการเช่าทุกอย่างมาดำเนินการ
|