Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 พฤศจิกายน 2549
บิ๊กNNCLขายหุ้นหลังราคาพุ่ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ นวนคร บมจ.

   
search resources

นวนคร, บมจ.
Stock Exchange




รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต. แจ้งถึงรายการการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหรือ 59-2 ซึ่งปรากฏว่านางสุวลัย จันทวานิช กรรมการ บริษัทนวนคร จำกัด(มหาชน)หรือ NNCL ได้ขายหุ้นบริษัทนวนครเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 จำนวน 9.5 แสนหุ้น โดยขายจำนวน 6 รายการในระดับราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งนางสุวลัยได้รับเงินจากการขายทั้งสิ้นจำนวน 4.436 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายละเอียดการขายหุ้นของนางสุวลัยทั้ง 6 ครั้ง ขายจำนวน 1.5 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 4.60 บาท ,ขายจำนวน 1 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 4.62 บาท,ขายจำนวน 1 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 4.64 บาท,ขายจำนวน 2 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 4.66 บาท,ขายจำนวน 2 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 4.70 บาทและขายจำนวน 2 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 4.74 บาท

อนึ่งก่อนหน้านี้พลเอกวรพันธ์ วรศักดิ์โยธิน ซึ่งเป็นกรรมการอิสระ ได้ขายหุ้นบริษัทนวนครเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2549 จำนวน 1 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 3.66 บาทและนายวีระชัย ชุติมากรณ์ ได้ขายหุ้นบริษัทนวนคร เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 จำนวน 1 แสนหุ้นในราคาหุ้นละ 4.62 บาท

วานนี้ (22 พ.ย.)ราคาหุ้นบริษัทนวนครปิดที่ระดับ 4.80 บาทลดลง 0.10 บาทหรือ 2.04% มูลค่าการซื้อขาย 1.75 ล้านบาทและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทนวนครหรือ NNCL-W1 ราคาปิด 3.16 บาทเพิ่มขึ้น 0.06 บาทหรือ 1.94% มูลค่าการซื้อขาย 30.92 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นบริษัทนวนคร และวอร์แรนต์ของนวนคร ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยในส่วนของหุ้นนวนครราคาอยู่ที่ระดับ 1.92 บาท ส่วนวอร์แรนต์ของนวนครราคาปิดที่ 0.92 บาท

นายชัย จิรเสวีนุประพนธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือCNS เปิดเผยว่าจากการเคลื่อนไหวของหุ้นบริษัทนวนครและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทนวนคร ภายหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ใช้มาตรการห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ดังนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังการเข้ามาเก็งกำไร เนื่องจากราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัย พื้นฐานแล้ว ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไร เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง จากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าราคาหุ้นบริษัทนวนคร ซึ่งมองจากปัจจัยพื้นฐานแล้วแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงเข้ามาเก็งกำไร เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาสนับสนุนการลงทุน ขณะเดียวกันทางบล.ไซรัสประเมิน แนวโน้มทางเทคนิคภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง จึงแนะนำให้ นักลงทุนทยอยขายทำกำไร เนื่องจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วเกินไปควรระมัดระวังแรงแรงเทขายทำกำไร

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด(มหาชน)หรือ ASPได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัทนวนคร ซึ่งได้แนะนำให้ขายหุ้นเพราะราคาสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือ Fair Value กำหนดที่พี/อี เรโช 8 เท่า ซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้นที่เหมาสม ณ สิ้นปี 2550 ที่ 1.88 บาท ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นระดับที่ต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน ซึ่งซื้อขายที่พี/อี เรโชสูงกว่า 15 เท่า

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัสยังได้คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทนวนครน่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากจะมียอดขายที่ดินที่ยังไม่บันทึกรายได้ประมาณ 200 ล้านบาทซึ่งน่าจะถูกบันทึกรายได้ในไตรมาส4 นี้ ส่วนGross Margin ถึงจะลดลงแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)หรือ KGIได้แนะนำให้ขายหุ้นบริษัทนวนครเช่นกัน โดยมองว่าราคาหุ้นแพงเกินไป ซึ่งนับตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมาถึง 147% ซึ่งราคาปัจจุบันสูงเกินไป โดยซื้อขายกันที่ พี/อี เรโช ของปี 2549 ที่ 15.2 เท่า เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยพี/อี เรโชในอดีตที่ 6-7 เท่า

ฝ่ายวิจัยบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่าบริษัทนวนครเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีแหล่งที่มาของรายได้หลากหลาย และไม่พึ่งพิงรายได้จากการขายที่ดินเพียงอย่างเดียว แต่ในเชิงราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายกันค่อนข้างแพงเกินไป เพื่อที่จะให้หุ้นบริษัทนวนครซื้อขายที่ราคาปัจจุบัน และที่ระดับพี/อี เรโช เฉลี่ยที่ 7 เท่าบริษัทต้องขายที่ดินถึง 425 ไร่ในปีนี้ นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับเพียง 3.3% เทียบกับในอดีตที่อยู่ในระดับ 7-9% โดยประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ 1.85 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us