อสังหาฯแห่เปิดโครงการใหม่ ค่ายมั่นคงเคหะการฯ เตรียมไว้แล้วปี 50 อีก 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท สำรองเงิน 500 ล้านบาท ซื้อที่ดินรับโครงการปีหน้า ตั้งเป้าอัตราเติบโตของยอดขายปี50 ไม่ต่ำกว่า 20-25% ด้านปริญสิริฯโหมหว่านเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ปูพรม 6 โครงการใหม่ เน้นตลาดคอนโดฯ หวังปรับประเภทโครงการหนุนโครงสร้างรายได้คอนโดฯปี 2551
แหล่งข่าวจากบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายโครงการใหม่ในปี 2550 โดยเตรียมเปิด 3 โครงการ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ Resident 5 ,ชวนชื่นอุดมสุข ส่วนอีก 1 โครงการยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นจึงไม่สามารถเปิดเผยได้ ในขณะที่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2549 จะเปิด 2 โครงการรองรับการสร้างรายได้ในปีหน้า มีมูลค่าโครงการ ประมาณ 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมงบจำนวน 500 ล้านบาท เพื่อจัดหาที่ดินใหม่รับแผนขยายโครงการใหม่
ในส่วนของแนวโน้มรายได้ไตรมาส 4 ปี 49 จะขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส3ที่ผ่านมา เพราะบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้เป็นจำนวนมาก โดยในปัจจุบันมียอดขายที่รอโอนเพื่อรอรับรู้รายได้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจปีนี้โกยยอดขายเข้าเป้าที่ 2,300 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขายไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่ที่จะมียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2550 ตั้งเป้าอัตราเติบโตของยอดขายไว้ที่ 20-25%
" ยอดขายปีนี้ไม่น่าจะพลาดเป้า เพราะเรามีโครงการใหม่ที่เปิดในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาสที่ 4 ถึง 3 โครงการ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งก็คงจะมียอดขายเข้ามามากเช่นกัน ปีนี้ตั้งเป้าโต 20-25% แต่ตัวเลขยังไม่นิ่งเพราะต้องรอดูผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ก่อน แต่ตัวเลขนี้ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรมาก" แหล่งข่าวกล่าวและยืนยันว่า
เกี่ยวกับกรณีที่ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์หลายราย หันมาเน้นจับกลุ่มลูกค้าในระดับกลางถึงล่างมากขึ้น ไม่ค่อนกังวล เนื่องจากบริษัทฯ มีทำเลที่ดีเดินทางสะดวกสบายเพราะใกล้ขนส่งมวลชน ในขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ เน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่างอยู่แล้ว ซึ่งมีประสบการณ์รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญและได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่นที่เพิ่งจะหันมาเน้นลูกค้ากลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้โครงการของบริษัทฯ ที่มีทำเลอยู่บริเวณใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงรบกวนจากสนามบินดังกล่าว เนื่องจากโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ ตั้งอยู่ไกลกับแนวเสียงผ่าน โดยโครงการของบริษัท ที่อยู่บริเวณสุวรรณภูมิมีอยู่ 3 โครงการ คือ บางนา กม.29 , ชวนชื่น อ่อนนุช และโครงการศรีนครินทร์
นายนำชัย วนาภานุเบศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายบัญชีการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า ในปีหน้าบริษัทวางงบลงทุนไว้ 1,000 ล้านบาท เพื่อสำหรับซื้อที่ดินพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเน้นที่ดินในทำเลใจกลางเมืองเป็นหลัก ทั้งนี้เงินลงทุนดังกล่าวจะนำมาจากกระแสเงินสดและการกู้ยืมสถาบันการเงิน โดยโครงการใหม่ที่ว่ามีถึง 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,671 ล้านบาท จำนวน 1,566 ยูนิต ประกอบด้วยโครงการราชปรารภ คอนโดมิเนียม ,โครงการพหลโยธิน คอนโดมิเนียม , โครงการนราธิวาส คอนโดมิเนียม , โครงการปริญญดา สามัคคี ,โครงการปริญลักษณ์ สามัคคี และโครงการปริญลักษณ์ เอกชัย บางบอน ซึ่งจะเริ่มเปิดจองในตั้งแต่เดือนมี.ค. 2550
ขณะที่บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 2,325.34 ล้านบาท โดยจากครึ่งปีแรกที่มีรายได้แล้ว 1,959.47 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะมีรายได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ ในไตรมาส 4 ปีนี้ ตัวเลขยอดขายจะสูงกว่าทุกไตรมาสของปีนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูการขาย(ไฮซีซั่น) ของธุรกิจอสังหาฯ ที่มียอดการโอนและรับรู้รายได้จำนวนมาก โดยจะมีสัดส่วนรับรู้รายได้ 1,000 กว่าล้านบาท ส่วนยอดขายที่เข้ามาคาดว่าอยู่ที่ 500 ล้านบาท เป็นส่วนของบริษัทและบริษัทร่วมทุนที่ชื่อ บริษัท ปริญเวนเจอร์ จำกัด
สำหรับผลประกอบการปี 2550 คาดการณ์รายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 3,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการรับรู้รายได้จากบริษัทปริญเวนเจอร์ฯ ซึ่งเข้าไปลงทุนในสัดส่วน 51% ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากรายได้ของบริษัทฯ ที่รับรู้จากการเปิดโครงการบ้านเดี่ยว ,ทาวเฮาส์ และคอนโดฯ ขณะที่ปี 2551 คาดการณ์รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากสามารถโอนรายได้จากคอนโดฯเข้ามาอย่างเต็มที่ โดยในปีดังกล่าวสัดส่วนรายได้จากคอนโดฯจะเพิ่มเป็น 50% หรือมากกว่า จากปัจจุบันรายได้หลักจะมาจากโครงการประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์
นายนำชัย กล่าวถึงความก้าวหน้าของแผนการร่วมทุนกับบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า จะเป็นส่วนของบริษัท ปริญเวนเจอร์ฯ ที่จะเข้าไปซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อนำมาพัฒนาคอนโดฯเอง ประมาณ10 ไร่ ในราคาไร่ละ 5-6 ล้านบาท คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 50-60 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาคอนโดฯระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อขายให้ลูกค้าในนิคมฯ
|