"ไรมอนแลนด์" เตรียมงบ 2,000 ล้านบาท ซื้อที่ดินสะสมในกทม.- เมืองท่องเที่ยว รอพัฒนาโครงการใหม่ เผยแผนพัฒนาโครงการใหม่ปี 50 ผุดโครงการคอนโดมิเนียมหรูเพิ่มอีก 2-3 โครงการ ในภูเก็ต-กทม. ล่าสุดเปิดพรีเชลโครงการ "นอร์ท พอยท์" ริมหาดวงศ์อมาตย์พัทยา มูลค่าขาย 4,500 ล้านบาทดักกำลังซื้อลูกค้าต่างชาติ

นายไนเจิล.เจ คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 2550ของบริษัทนั้น ยังคงเน้นการลงทุนในย่านกลางเมืองกรุงเทพ และจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาและภูเก็ต โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 2-3 โครงการ โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ซื้อที่ดินในหาดกะตะจากบริษัทไม่วาน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวน 37 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการโรงแรมและรีสอร์ท แต่บริษัทได้มีการปรับแผนการพัฒนาโครงการใหม่ โดยเปลี่ยนจากการพัฒนาโครงการโรงแรมมาเป็นการพัฒนาโครงการวิลล่าเพียงอย่างเดียว ซึ่งโครงการวิลล่าดังกล่าว จะมีจำนวนการพัฒนาทั้งสิ้น 20 ยูนิต ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 100 -200 ล้านบาทต่อยูนิต ขนาดพื้นที่ ใช้สอย 750-1,500 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 1 ไร่ -2 ไร่ครึ่ง คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสสองของปีหน้า

ส่วนอีกหนึ่งโครงการอยู่บริเวณสะพานสาทร คือโครงการเดอะริเวอร์ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 800 ยูนิต ราคาขาย 85,000 -120,000 บาทต่อตารางเมตร และพื้นที่ค้าปลีกอีก 9,000 ตารางเมตร จากพื้นที่ทั้งโครงการ 200,000 ตารางเมตร ซึ่งจะก่อสร้างเสร็จภายใน 4 ปี นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการนอร์ท พอยท์ 2 ซึ่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโครงการแรก ขณะเดียวในปีหน้าบริษัทตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดินรอการพัฒนาโครงการเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้บริษัทได้นำโครงการไปโรดโชว์ในฮ่องกง เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีกลุ่มนักลงทุนประเภทกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติสนใจเป็นอย่างมากที่จะขอร่วมทุนกับบริษัท ทั้งจากฮ่องกง กลุ่มอาหรับ และสิงคโปร์ โดยใช้เกณฑ์ว่าหากทรัพย์สินในการพัฒนารวมของบริษัท ถึงหลัก 40,000 ล้านบาท จึงจะพิจารณาผู้ร่วมทุน

สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น โครงการคอนโดมิเนียมในเมืองพัทยาได้รับความสนใจจากคนไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมจำหน่ายออกไปได้กว่า 2,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นห้องชุดระดับพรีเมี่ยมถึง 161 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,420 ล้านบาท โดยโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลย่านหาดจอมเทียนสามารถทำยอดขายได้สูงสุดถึง 60%

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ "นอร์ท พอยท์" ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่เศษ ย่านริมหาดวงศ์อมาตย์พัทยา โดยโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างเป็น 2 อาคาร เป็นอาคารสูง 46 ชั้นและ 54 ชั้น ราคาขาย1.3 แสนบาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้บริษัทได้เปิดพรีเชลไปเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดจองแล้ว 20% และคาดว่าถึงสิ้นปีจะทำยอดจองได้ 45% และจะสามารถปิดการขายได้ในกลางปี 2550

ส่วนโครงการเดิมของบริษัทที่เปิดขายในพัทยานั้น ปัจจุบันบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมเหลือขายเพียง 28 ยูนิต จาก 521 ยูนิต และคาดว่าจะปิดการขายภายในปีนี้ ขณะที่สินค้าใหม่ที่กำลังจะเข้าตลาดมีอยู่น้อย โดยภายในปลายปีนี้จะมีโครงการเปิดใหม่ 3 โครงการเท่านั้น ได้แก่โครงการโอเชี่ยนวัน ของกลุ่มบริษัทสยามเบส เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำนวน 611 ยูนิต โครงการคอมเพล็กซ์ของกลุ่มทีซีซี แคปปิตอลแลนด์ ซึ่งยังไม่เปิดเผยจำนวนยูนิตที่จะเปิดขาย และโครงการนอร์ท พอยท์ของกลุ่มจำนวน 374 ยูนิต

"ปัจจัยที่ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมในตลาดระดับหรูในเมืองพัทยาเปิดตัวน้อย เนื่องจากติดปัญหาเรื่องที่ดินจะพัฒนาโครงการนั้นมีอยู่อย่างจำกัดและไม่ได้อยู่ติดชายหาด ขณะที่ราคาขายที่ดินก็พุ่งสูงส่งผลให้ราคาขายห้องชุดระดับนี้พุ่งสูงถึง 100,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นระดับราคาเดียวกันกับห้องชุดย่านกลางเมืองของกรุงเทพฯ" นายไนเจิลกล่าว