กองทุนอสังหาฯ สนามบินสมุยเนื้อหอม นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศแห่จองล้นหลาม คาดระดมทุนได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เผยจัดตั้งกองทุนผ่านฉลุย พร้อมเดินหน้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปลายเดือนพฤศจิกายน ก่อนทำการแต่งตั้งมาร์เกตเมคเกอร์ ดูแลสภาพคล่องสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนภายในปีนี้

นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย มูลค่าโครงการ 10,500 ล้านบาท เปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 9-17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยสามารถระดมทุนได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้กองทุนสามารถจัดตั้งกองและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้อย่างแน่นอน

สำหรับสัดส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนกับกองทุนดังกล่าว ประกอบด้วยนักลงทุนรายย่อยในสัดส่วน 1 ใน 3 ซึ่งมีจำนวนรวม 250 ราย ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการจัดตั้งกองทุน ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศ 1 ใน 3 และนักลงทุนต่างประเทศในสัดส่วน 1 ใน 3 เช่นกัน โดยสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศมาจากสิงคโปร์ ฮ่องกงและอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่กองทุนได้เดินทางไปให้ข้อมูล (โรดโชว์) ในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย

"การเปิดขายหน่วยลงทุนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปตามแผนการระดมทุนของเรา โดนเฉพาะสัดส่วนการลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันในประเทศและต่างประเทศที่เป็นไปตามแผน ซึ่งหลังจากปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้ว เราคาดว่ากองทุนจะสามารถเข้าจดทะเบียนได้ไม่เกินวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ โดยสาเหตุที่เราสามารถจดทะเบียนได้เร็วนั้น เนื่องจากองทุนดังกล่าวมีการวางแผนระดมทุนไว้ค่อนข้างนานแล้ว พอปิดไอพีโอก็สามารถจดทะเบียนได้ทันที"นายวรนนท์กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจัยหนึ่งที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนค่อนข้างดี เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ประเภทใหม่ที่ยังไม่เคยมีในตลาด ประกอบกับผลตอบแทนที่เกิดขึ้นของกองทุนจะอิงกับการใช้บริการของสนามบินเป็นหลัก ซึ่งก็มีอัตราการเติบโตสูงอยู่แล้ว ทำให้มีความน่าสนใจกว่ากองทุนประเภทสิทธิการเช่าอื่นๆ

สำหรับผลตอบแทนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย คาดว่าในปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 9.10% ซึ่งอยู่ภายใต้มูลค่าโครงการ 10,500 ล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยตลอดอายุโครงการ (IRR) อยู่ที่ 12-14%

นายวรนนท์กล่าวว่า การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยขาลง ซึ่งการที่นักลงทุนจะเอาชนะเงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยก็ดี การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็สามารถตอบโจทย์ได้ ทั้งนี้หลังจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ภายในปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะแต่งตั้งผู้ดูแลสภาพคล่องของกองทุน (มาร์เกตเมคเกอร์) เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเป็นแรงกระตุ้นการลงทุนด้วย

สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ลงทุนในสนามบินเกาะสมุยของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มูลค่าโครงการ 10,500 ล้านบาท โดยเป็นสัญญาเช่า 30 ปี และบางกอกแอร์เวย์สเช่ากลับมีการแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปของค่าเช่าและการแบ่งปันผลกำไรในรูปของ Profit Sharing

ส่วนรายได้ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุยจะมาจาก ในส่วนของค่าเช่าสนามบิน ที่บางกอกแอร์เวย์ส จะต้องจ่ายขั้นต่ำให้แก่กองทุนเฉลี่ย 6% ต่อไปจากนั้นก็จะมีการแบ่งปันรายได้ตามผลการดำเนินงาน (Profit Sharing) ซึ่งกองทุนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามผลการดำเนินงาน ซึ่งกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาว เพื่อรับเงินปันผลโดยกองทุนนี้มีนโยบายจ่ายเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี

ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ถือเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) กองทุนสองที่คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างแน่นอนแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทียูโดม ของบลจ.ไอเอ็นจี ซึ่งลงทุนในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สามารถระดมทุนได้ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานก.ล.ต. โดยกองทุนมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนพฤศจิกายนมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) เปิดขายหน่วยลงทุนในเวลาใกล้เคียงกันจำนวน 3 กองทุน ซึ่งประกอบด้วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ของบลจ.ไอเอ็นจี ซึ่งปิดขายไอพีโอไปแล้วเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เจซี หรือ JCP มูลค่าโครงการประมาณ 620 ล้านบาท ของบลจ.พรีมาเวสท์ ที่มีนโยบายการลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารบางส่วนของอาคารเจซี เควิน ทาวเวอร์ เอ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า โดยมีการจ่ายเงินปันผล อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกให้แก่ผู้ลงทุนในระหว่างวันที่ 21-29 พฤศจิกายนนี้

ส่วนอีกหนึ่งกองทุนที่อยู่ระหว่างโรดโชว์คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ ของบลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่างวันที่ 22-30 พฤศจิกายนนี้