ชื่อของวันชัย พละพงษ์พาณิช อาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นหูกันนักในวงการพัฒนาที่ดินบ้านเรา ทั้ง ๆ ที่เขาเริ่มทำธุรกิจทางด้านที่อยู่อาศัยมานาน อาจจะเป็นเพราะโครงการที่เขาทำส่วนใหญ่จะเป็นโครงการอพาร์มเม้นท์ ในทำเลทองย่านสุขุมวิท ซึ่งจับลุกค้าที่มีรายได้สูงเพียงกลุ่มหนึ่งเป็นหลัก

ในขณะที่อีกบทบาทหนึ่งของวิชัยคือประธานของกลุ่ม " เดอะ เพรสซิเดนท์พาร์ค กรุ๊ป" ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2475 และได้เจริญเติบโตขึ้นเป็นอันดับจนกลายเป็นกลุ่มธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศ ประกอบไปด้วยบริษัทในเครือประมาณ 14 บริษัท มีทั้งอุตสาหกรรมทางด้านสิ่งทอ การผลิตฟาสต์ฟูด ธุรกิจโรงแรมและบริการการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทก่อสร้าง

สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของกลุ่มนี้ เช่นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก pur ถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ และคิงเท็กซ์ ธุรกิจฟาสต์ฟูดภายใต้ชื่อ " ดังกิ้นโดนัท" ซึ่งปัจจุบันมีสาขากว่า 50 แห่ง และเคาน์เตอร์ ขายปลีกกว่า 14 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร

ทางด้านการก่อสร้างกลุ่มนี้ ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท Baure Speziatiefbau แห่งประเทศเยอรมันนีตั้งบริษัทไทยบาวเออร์ ขึ้นเพื่อดำเนินกกจการทางด้านงานเสาเข็มและฐานราก

โครงการพัฒนาที่ดินที่วิชัย ทำในระยะแรก เป็นเพียงอพาร์ทเม้นท์ แต่เมื่อมีการแข่งขันกันมาก ขึ้นบนถนนสุขุมวิท อาพาร์ทเม้นท์ของเขาก็ถูกปรับเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่เน้นจับกิลุ่มผู้เข้าพักในระยะเวลาสั้น โดยให้บริการเพียบพรร้อมเช่นเดียวกับโรงแรม เช่นรอยัลเอ๊กซ์คลูซีพเซอร์วิส ในซอยสุขุมวิท 15 แกรนด์เพรสซิเดนท์เอ็กซ์คลูซีพ ในซอย สุขุมวิท 11

ในปลาย ปี 2532 ชื่อเสียงวิชัยถูกปลุกให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อเขขาประกาศทำโครงการคอนโดมีเนียมกลางกรุงในซอยสุขุมวิท 24 พร้อมกันถึง 13 ตึก ในที่ดิน 41 ไร่ ภายใต้ชื่อโครงการ " เดอะเพะรสซิเด้นท์ ปาร์ค" ต่มมาเมื่อสภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปวิชัยก็ปรับโครงการเป็นคอนโดมิเนียม เพียง 3 ตึก และอีก 1 ตึก เป้นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ชื่อ " เดอะเพรสซิเด้นท์พาร์ค เอ็กซ์คลูซีพ" สำหรับจำนวนตึกที่เหลือได้ระงับโครงการไปแล้ว ทำให้ขณะนี้ยังมีที่ดินตรงนี้อีกประมาณ 30 ไร่

พร้อมๆ กับการทำโครงการย่านสุขุมวิท วิชัยก็ได้มองที่ดินย่านชานเมืองไว้เช่นกัน โดยตังใจไว้ว่า ต้องทำเป็นโครงการที่อบยู่อาศัยขนาดใหญ่อีกเหมือนกัน ในที่สุดก็ติดใจเอาที่ดินแหล่ง
หนึ่งของสุระ จันทร์ศรีชวาลา บนถนนพัฒนาการติดกับหมู่บ้านปัญหา ของปัญญา ควรตระกูลในเนื้อที่ทั้งหมด 620 ไร่

ที่ดินแปลงนี้ ว่ากันว่า สุระเคยเสนอขายปัญญาในราคาตารางวาละ ประมาณ 8-9 พันบาท แต่ปัญญาไม่ซื้อเพราะเห็นว่าแพงไป ในขณะที่ปัจจุบันราคาขายประมาณตารางวาละ 3 หมื่นบาท

วิชัยประกาศจะทำโครงการตรงนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ในรูปแบบของเมืองคอนโดมิเนียม ราคาปานกลาง แต่สงครามการแข่งขันการขายคอนโดมีเนียมย่านชานเมืองที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้วิชัยต้องทำการศึกษาตลาดใหม่และมองว่าความเป็นไปได้ทางการตลาด ณ วันนี้น่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์มากว่า

โครงการเพรสซิเด้นท์ พาร์คทาวน์ จึงได้เกิดขึ้น นับว่าเป็นโครงการพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มเพรสซิเดนท์กรุ๊ป ประกอบไปด้วยบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และคอนโดมีเนียม ประมาณ 1,350 ยูนิต ในเฟสที่ 1 มูลค่ารวมเฉพาะเฟสนี้กว่า 10,000 ล้านบาท และวาดแผนไว้ว่าทั้งโครงการจะมีที่อยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 4,000 ยูนิต

นอกจากงบประมาณในการโฆษณาที่ทุ่มเทอย่างหนักแล้ว ในโครงการนี้เขามีไอเดียใหม่ โดยยังทุ่มเงินประมาณ 200 ล้านบาททำ " เอ็กซ์โปโดม โฮมเซ้นเตอร์" ซึ่งเป็นศูนย์แสดงบ้านครบวงจรติดแอร์ทั้งหลังในพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม เพื่ออำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อโดยรวมบ้านตัวอย่างขนาดเท่าของจริง 14 แบบ ศูนย์เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์การแต่งบ้านไว้ในที่เดียวกันเพื่อไว้ให้ผู้ซื้อประหยัดเวลา เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 ของทุกวัน

นอกจากนี้ได้นำเอาระบบคอมพิวเตอร์สมัยใหม่มาช่วย ในการตกแต่งภายในบ้านโดยที่ผู้ซื้อสามารถเปลี่ยนแบบบ้าน และเลือกใช้วัสดุที่ต้องการได้พร้อม ๆ กับเห็นภาพของบ้านตามความคิดของตนทางจอคอมพิวเตอร์ได้ในทันที รวมทั้งบ้านแต่ละหลังมีการออกแบบให้มีชั้นใต้ดินอีกด้วย

วิชัยฝันเฟื่องไว้ว่าในปีนี้เจาจะฟันยอดขายในโครงการนี้ประมาณ 5,000 และจะนำกลุ่มเพรสซิเด้นท์พาร์ค กรุ๊ป เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้าในหมวดอสังหาริมทรัพย์

ก้าวย่างต่อไปของวิชัย ในธุรกิจที่อยู่อาศัย นับว่าน่านใจทีเดียว เพราะเขาเป็นผู้หนึ่ง ที่สามารถปรับแผนในการทำธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับสถานการณ์การตลาดในแต่ละช่วงเวลา และยังมีไอเดียใหม่ ๆ ออกมาอีกด้วย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเสี่ยวิชัยคนนี้คงเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเร็ววันนี้เป็นแน่