"โกลว์ พลังงาน" โชว์ผลงานงวด 9 เดือนแรกปี 2549 รายได้รวมสูงกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท กำไรก่อนรวมอัตราแลกเปลี่ยน 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 60% ด้านผู้บริหารมั่นใจ ผลงานโตต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมประมูลไอพีพีรอบใหม่ครึ่งแรกปีหน้า

นายปีเตอร์ เทอร์โมท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW กล่าวถึง ผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรกของปี 2549 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 24,324 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและค่าเสื่อม จำนวน 6,742 ล้านบาท กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้จำนวน 3,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 352 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.4%

ขณะที่ GLOW แจ้งต่อตลาด หลักทรัพย์ฯ ว่า ไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,233.74 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.84 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 821.58 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.57 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 4,149.35 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.84 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 2,608.31 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.82 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,541.04 ล้านบาท คิดเป็น 59.08%

"ผลงาน 9 เดือนแรกเป็นไปตามที่คาดไว้ โดยกำไรจากการขาย ไฟฟ้าและไอน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของยอดขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน ขณะที่ธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน รายใหญ่ (ไอพีพี) ได้มีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเป็นปกติ หลังจาก หยุดเดินเครื่องเนื่องจากมีการซ่อมบำรุงหลักเกิดขึ้นในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว"

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคม 2548 บริษัทได้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายทางด้านการเงินลดลง แม้ว่าจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้นบ้าง

"ผมมั่นใจว่าในปีนี้ จะเป็นอีก ปีหนึ่งที่โกลว์จะมีผลการดำเนินงาน ที่แข็งแกร่ง นับจากปี 2545 ที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี แม้จะไม่มีการขยายกำลังการผลิตขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต โดยธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกันนั้น การเติบโตจะอยู่ที่ส่วนต่อขยายของลูกค้าหลักในกลุ่มปิโตรเคมีที่จะเริ่ม เดินเครื่องผลิตในปี 2552-2553 ส่งผลทำให้บริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกประมาณ 120-220 เมกะวัตต์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว

สำหรับธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) คาดว่าภายในครึ่งปีแรกของปี 2550 จะมีการเปิดประมูลไอพีพีรอบใหม่ ซึ่งบริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี ด้วยการร่วมทุนกับบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และทางบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเสนอการบริหารในราคาที่เหมาะสมและเป็นที่พอใจแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการประมูลไอพีพีรอบใหม่ได้ โดยกลุ่มบริษัทคาดหวังที่จะชนะการประมูลในครั้งนี้ประมาณ 700-1,400 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้สามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงปี 2554-2558