Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2539
ท่านผู้หญิงอเมลลิต้า รามอส             
โดย กุสุมา โยธาสมุทร
 

   
related stories

สองสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งอาเซียน

   
search resources

อเมลลิต้า รามอส




ณ ห้อง THE AUTHOR'S RESIDENCE หลังระเบียงมุขขาว ปูลาดบันไดเวียนด้วยพรมเหลืองไพรของโรงแรมโอเรียนเต็ล ถูกจัดเป็นที่พำนักของประธานาธิบดี พลเอกฟิเดล รามอส และสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฟิลิปปินส์ นางอเมลลิต้า มาติเนซ ภริยาร่วมทุกข์ร่วมสุขของประธานาธิบดีตากาล็อกคนปัจจุบันมากว่า 40 ปี

มองจากความชื่นบานบนใบหน้าของท่านผู้หญิงอเมลลิต้า รามอสแล้วใครๆ ก็เชื่อว่า การเข้าไปนั่งอยู่บนหอคอยงาช้างยามนี้ คงจะเป็นสุขเสียเหลือเกิน

"บอกตรงๆ เลยว่าบางครั้งก็เกิดอาการท้อแท้ อ่อนล้า กับการถูกวิจารณ์จากสื่อมวลชนที่เฝ้าแต่จะชนท่านประธานาธิบดีอย่างไม่เป็นธรรม แล้วไหนจะฝ่ายค้านที่โจมตีไปเสียทุกเรื่อง ดิฉันก็เลยคุยกับท่านว่า เราทำงานกันแทบตาย แต่พวกเขาคิดว่าเราไม่ทำอะไรเลย ทำไมไม่ลาออกเสีย ท่านก็ได้แต่หัวเราะ"

จากครูสตรีสอนวิชาพละศึกษา ไต่เต้าไปสู่การเป็นภรรยานายทหารหนุ่ม อดีตเพื่อนซี้แต่เยาว์วัย บุตรชายอดีตเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศ เวียนว่ายแยกย้ายไปศึกษาต่อต่างประเทศจนกลายมาเป็นมาดามอเมลลิต้า รามอสนั้น ท่านผู้หญิงฯ บอกว่าก็มีความแตกต่างกันบ้าง แต่ครอบครัวรามอสเป็นครอบครัวที่ไม่ชอบเป็นเป้าสายตาใครๆ และก็มีวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยอิสระภาพเป็นตัวของตัวเอง

"เราอยู่ได้เพราะต้องเลี้ยงตัวเราเอง ดิฉันเคยเป็นครูที่โรงเรียนอเมริกันแห่งหนึ่ง เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นแต่เป็นผู้อำนวยการที่ปรึกษา ดูแลเรื่องการสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ ก็ต้องไปทำงานอาทิตย์ละ 3 วัน และก็ใช้จ่ายจากเงินเดือนที่ได้รับ"

ใครจะเชื่อบ้างว่าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฟิลิปปินส์คนนี้ต้องหาเงินใช้เอง เพราะติดนิสัยช่วยตัวเองมาตลอดจึงไม่อยากขอเงินจากใคร แม้แต่กระทั่งจากสามีของตัวเอง

"ดิฉันมีสำนักงานเล็กๆ ในทำเนียบ 'เฟิสต์เลดี้' ในพระราชวังมาลากันยังแต่เราพักอยู่ที่เกสต์เฮาส์ห่างจากนั่นนิดหน่อย คุณรู้ไหม เรามีเจ้าหน้าที่ทำงานช่วยจัดเวลานัดหมาย และอื่นๆ 5 คนด้วยกัน แต่เราไม่มีเงินจะจ่ายเงินเดือน เราจึงต้องหยิบยืมบางส่วนจากกระทรวงการต่างประเทศบางส่วนจากทำเนียบประธานาธิบดี"

ประธานาธิบดีฟิเดล วี รามอส ในชื่อเล่นว่า "เอ็ดดี้" ผู้มีอุปนิสัยขี้เล่น ใจเย็น แต่มุ่งมั่นในการที่จะทำอะไรให้สำเร็จลุล่วงแล้วต้องทำให้ได้ สำหรับมาดามอเมลลิต้าแล้ว ท่านประธานาธิบดีออกจะดื้อแม้อดข้าวเป็นวันๆ ก็ไม่ยอมหยุดงานที่คั่งค้าง และนิสัยมุ่งมั่นนี้ก็มีผลถึงลูกๆ ผู้หญิงล้วนๆ ถึง 5 คนที่ล้วนแล้วมีครอบคัวทำงานทำการในด้านธุรกิจการเงิน คนโตอาชีพโบรกเกอร์หาแหล่งลงทุน ถัดมาผู้จัดการการตลาดบริษัทสแทนดาล ถัดๆ ไปผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารพี ซี ไอ และเจ้าหน้าที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ส่วนคนสุดท้องก็เข้าไปอยู่ฝึกงานกับบริษัทน้ำดำโคคาโคล่า

เรื่องราวแต่หนหลังที่ทำให้มาดามรามอส อกสั่นขวัญแขวนเป็นที่สุดในชีวิต คือช่วงที่สามีของเธอพร้อมพลพรรคประมาณ 300 คนตัดสินใจตีจากประธานาธิบดีมากอส ที่มีกำลังเกือบทั้งกองทัพ ไปยืนเคียงข้างฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีมากอส ผู้ที่เธอบอกว่าไม่รู้จักคำว่า "พอ" และครั้งนั้นเธอและครอบครัวรวมตัวกันอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงรถถังวิ่งใกล้เข้ามาพร้อมๆ กับกลัวที่จะถูกกองทัพอากาศฝ่ายประธานาธิบดีมากอสถล่มบ้านเธอ เนื่องด้วยประธานาธิบดีมากอสต้องการให้สามีเธอยอมจำนน

"ครั้งนั้น ดิฉันจำเป็นต้องทำตัวให้กล้าหาญ เพื่อแสดงให้เด็กๆ เห็นว่าดิฉันไม่กลัว จะได้ไม่ตื่นตระหนกตกใจ"

นอกจากครั้งนั้นแล้ว มาดามอเมลลิต้าบอกว่า ก็มีการปฏิวัติรัฐประหารถี่พอๆ กับประเทศไทยถึง 7 ครั้งช่วงที่นางอาคีโนปกครองประเทศ

แม้จะดำรงตำแหน่งภริยาผู้นำประเทศอันดับหนึ่งไม่มีสอง จนถึงวันนี้เกือบ 3 ปีแล้วมาดาม อเมลลิต้าวัย 69 ก็บอกว่าเธอดำเนินชีวิตอย่างไม่เป็นที่ฮือฮา ฟู่ฟ่าต่างจากสตรีหมายเลขหนึ่งในอดีต เป็นคนละรูปแบบกับนางอีเมลด้า มากอส เธอจึงมีรองเท้าใส่ไม่ถึง 3,000 คู่อย่างนางอีเมลดา

"ดิฉันรู้จักมาดามมากอสดี แต่ไม่พยายามให้ความสนิทสนมนัก เธอมีกลุ่มที่เรียกว่า 'บลูเลดี้' คอยปรนนิบัติอยู่ เธอเคยสมัครเข้าแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งกับสามีฉัน ตอนนี้เธอก็เข้าไปอยู่ในสภาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากผู้คนที่บ้านเกิดของเธอ"

มาดามอเมลลิต้า รามอส แม้จะชอบที่นั่งห่างๆ จากการเมือง แต่ก็เข้าไปช่วยสามีในเรื่องของสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างสรรค์สังคมฟิลิปปินส์ให้สะอาดหมดจดขึ้น ที่สำคัญมาดามรามอสชอบต้นไม้ใบหญ้าเป็นชีวิตจิตใจ และตั้งเป้าชีวิตกันเหนียวหลังเกษียณ…ไปขายกล้วยไม้ดีกว่า

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us