Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2539
สองสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งอาเซียน             
โดย กุสุมา โยธาสมุทร
 

   
related stories

ท่านผู้หญิงอเมลลิต้า รามอส

   
search resources

ตันศรีดาติน ซาติ ฮัสมะห์




เบื้องหลังการเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนของผู้นำประเทศอาเซียนเมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคม 2538 คือบรรดาท่านผู้หญิงที่ร่วมเดินทางมาร่วมเป็นเกียรติด้วย "กุสุมา โยธาสมุทร" จาก "ผู้จัดการรายเดือน" ได้รับเกียรติจากภริยาท่านผู้นำ 2 ประเทศให้เข้าพบและสนทนาในแง่มุมของชีวิตและความหลังแห่งความสำเร็จ ตันศรีดาติน ซาติ ฮัสมะห์ (TANSRIDATIN SATI HASMAH) สตรีร่างเล็กผิวขาวที่แม้ในวัย 69 ปี เค้าโครงความงามยังฉายให้เห็นได้อย่างเด่นชัด และที่สำคัญ สตรีมนุษย์สัมพันธ์ดีผู้นี้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของมาเลเซีย ดาโต๊ะเสรี ดอกเตอร์มหาเธร์ โมฮัมหมัด

เบื้องลึกความรักระหว่างนายแพทย์มหาเธอร์ โมฮัมหมัดกับแพทย์หญิงซาติ ฮัสมะห์ เบ่งบานขึ้นที่วิทยาลัยแพทย์คิงเอ็ดเวร็ด ที่สิงคโปร์ โดยที่คุณหมอซาติไม่ได้ฉงนใจแม้แต่น้อยถึงความมุ่งมั่นทางการเมืองของคุณหมอมหาเธร์เมื่อการสมรสเกิดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2499

ความที่เป็นสตรีมาเลย์ทันยุคทันสมัย ตันศรีดาติน ฮัสมะห์ จึงเห็นว่าสตรีในกลุ่มประเทศอาเซียนทุกวันนี้ แม้จะมีบทบาทมากมายขึ้นมาก แต่ก็ควรจะก้าวหน้าไปไกลมากกว่านี้ และควรที่จะเข้าไปอยู่ในระดับบริหารประเทศให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับบทบาทของตนเองในฐานะภริยาผู้นำประเทศ ท่านผู้หญิงบอกว่า "ในทางการเมือง แม้ดิฉันจะไม่มีบทบาทสำคัญในรัฐบาล แต่ดิฉันก็เป็นสมาชิกของพรรคอัมโน ดิฉันจะให้การสนับสนุนสามีทุกอย่าง ทุกประการ และจะเคียงคู่ไปเป็นกำลังใจ ออกงานกับสามีทุกที่ ทุกครั้งก็จะไป"

มั่นคงด้วยรักนิรันดร์ ในฐานะภริยาคู่ยากของผู้นำประเทศ ท่านผู้หญิงฮัสมะห์แม้ห่วงใยในการที่สามีมิได้พักผ่อนเท่าที่ควรจะได้รับ เนื่องเพราะ 3 วันประชุมที่ลังกาวี 2 วันที่มาเลเซีย 5 วันที่โน้นและที่นี่ ก็ไม่อาจทัดทานความมุ่งมั่นของนายกฯ มหาเธร์ลงได้ แม้สุขภาพของท่านนายกฯ จะยังคงไม่มีปัญหาหลังการผ่าตัดหัวใจมาหยกๆ แล้วก็ตาม

ทุกวันนี้ ทั้งท่านผู้หญิงฮัสมะห์และนายกมหาเธอร์ โมฮัมหมัดมีทายาทเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง 4 คน ซึ่งก็โตๆ กันไปสร้างครอบครัวมีหลานให้ตายาย ผู้นำมาเลเซียทั้งสองอีก 6 คน แต่ท่านผู้หญิงก็บอกว่า

"พอทุกคนโตกันหมด บ้านก็โหรงเหรง เราจึงเหงาและฉุกคิดกันขึ้นมาได้ว่า เราควรจะหาเด็กๆ มาเลี้ยง

และนั่นก็คือที่มาของการขอลูกชาวบ้านที่ป่วยไข้ผู้หนึ่งมาเลี้ยง หลังจากที่นายแพทย์มหาเธร์ให้การรักษาจากคลินิกส่วนตัวตั้งขึ้น เมื่อสมรสได้หนึ่งปีที่เมืองอารอว์สตาร์ จนหายจากอาการเจ็บป่วย และรับเป็นแม่ทูลหัวเด็ก ตามความเชื่อว่า เด็กจะหายจากการป่วยไข้ ถ้ามอบให้คนอื่นเป็นพ่อแม่ทูลหัว ในที่สุดก็รับเลี้ยงไว้ 3 คน

ท่านผู้หญิงอัสมะห์ในวัยนี้ ดูปราดเปรียว แข็งแรง เธอบอกว่า นอกจากกีฬาแบดมินตันที่เล่นอาทิตย์ละ 3 ครั้งแล้ว ยังหล่อหลอมตัวเองด้วยคติประจำใจว่า อบอุ่น อดทน อดกลั้น เป็นภรรยาที่ดี และที่สำคัญนึกถึงพระผู้สร้างที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่เธอทุกวันนี้อย่างสม่ำเสมอ

เมื่อถามถึงอุปนิสัยของนายกมหาเธร์ในฐานะผู้ที่ใกล้ชิดที่สุด แน่นอนท่านผู้หญิงบอกว่านายกมหาเธร์อารมณ์เย็น มีเมตตา น่ารัก และขี้สงสาร และจากการเป็นคนขี้สงสารนี่เอง ที่เป็นสาเหตุให้นายกมหาเธร์ลาออกจากราชการไปรักษาคนไข้ชาวนายากไร้ พบเห็นกับความยากลำบากของผู้คนมากขึ้น จึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองที่ชื่ออัมโนมากขึ้นไปด้วย จนได้รับสมญานามว่า "คุณหมออัมโน" (Dr. UMNO)

มิน่าล่ะ ! ทำไม ตันศรีดาติน ชาติน อัสมะห์ แห่งมาเลเซีย จึงไม่ยอมบอกว่าเพลง "อีฟ ไอ กีฟ มาย ฮาร์ด ทู ยู" (ถ้าฉันมอบดวงใจฉันให้กับคุณ) ที่ขึ้นไปครวญให้บรรดาภรรยาเจ้าหน้าที่สถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยฟังบ่ายวันนั้นมีความหมายลึกซึ้งอย่างไร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us