Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 พฤศจิกายน 2549
"โฮชิง"รับเจ๊งหุ้นชินฯนักลงทุนสิงคโปร์รุมซักเทมาเส็กหนัก             
 


   
www resources

AIS Homepage
โฮมเพจ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์

   
search resources

แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส, บมจ.
เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์
Stock Exchange




การที่เทมาเส็กเข้าซื้อหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN (ชินคอร์ป) มีส่วนสำคัญทำให้เกิดกระแสต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในประเทศไทย จนไปสู่การทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของเขาในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เทมาเส็กในสิงคโปร์ เกี่ยวกับการเข้าไปซื้อกิจการบริษัทแม่ของกิจการสื่อสารใหญ่ที่สุดในเมืองไทยแห่งนี้ จนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมากมาย

เมื่อถูกผู้ฟังถามว่า เธอคาดหมายว่าปัญหาชินคอร์ปจะได้รับการแก้ไขอย่างไร นางโฮชิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)ของเทมาเส็กก็ตอบว่า "ในขณะเวลานี้ เรามองการณ์ในแง่ดีด้วยความระวังรอบคอบ"

นางโฮซึ่งไปกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมนักลงทุนที่จัดโดยวาณิชธนกิจ มอร์แกน สแตนลีย์ พูดต่อไปว่า เธอเข้าใจว่ารัฐบาลไทยชุดปัจจุบันต้องการนำประเทศกลับไปสู่เส้นทางแห่งการเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่เธอก็มิได้ขยายความมากไปกว่านี้

ตามการคำนวณของรอยเตอร์ กลุ่มร่วมทุนที่นำโดยเทมาเส็กเวลานี้ถือหุ้นชินคอร์ปอยู่ 96% แต่ราคาหุ้นตัวนี้ได้ตกลงจาก 49.25 บาทต่อหุ้น เมื่อตอนที่เทมาเส็กชำระเงิน จนเหลือเพียง 30 บาทแล้ว

ขณะเดียวกัน ธุรกิจอีกหลายอย่างซึ่งชินคอร์ปมีเอี่ยวอยู่ก็ยังเกิดปัญหามากมาย เมื่อวันศุกร์(10)ที่ผ่านมา ชินเพิ่งรายงานว่า ผลกำไรในรอบไตรมาสตกฮวบลง 54% จนอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากธุรกิจหลักๆ ต่างมีผลประกอบการย่ำแย่

ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลไทยยังกำลังเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 9,400 ล้านบาท (2,600 ล้านดอลลาร์) จากบริษัทไอทีวี ซึ่งก็เป็นกิจการหนึ่งในเครือชินคอร์ป ในกรณีพิพาทเกี่ยวกับค่าสัมปทาน

การเข้าซื้อหุ้นชินที่นำโดยเทมาเส็กเอง ก็กำลังถูกทางการไทยสอบสวนเช่นกัน ว่ามีการละเมิดกฎหมายการถือครองของต่างชาติหรือไม่

ส.ส.สิงคโปร์ถามรัฐบาลเรื่องเทมาเส็กซื้อชิน

ทางด้านโทรทัศน์แชนเนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์ รายงานในเว็บไซต์ของตนว่า ในรัฐสภาสิงคโปร์วานนี้ ก็ได้มีการตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับดีลเทมาเส็กซื้อชินคอร์ป และนายธาร์มาน ชันมูการัตนัม รัฐมนตรีคลังคนที่สองตอบยืนยันว่า ข้อตกลงนี้เป็นธุรกรรมทางการพาณิชย์ที่สะอาด และทำตามกฎหมายในประเทศไทยทุกอย่าง

ทั้งนี้ มี ส.ส.สิงคโปร์หลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า การที่เทมาเส็กเข้าไปทำการลงทุนซึ่งมีความเสี่ยงสูงเช่นนี้ เปรียบเหมือนการเอาไข่ทั้งหมดทุกฟองใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว

"ในตอนท้ายของการดำเนินการทั้งหมด ด้วยการที่เทมาเส็กกำลังถือครอง 96% ของทรัพย์สินซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ชิ้นหนึ่งของประเทศไทย เรื่องนี้ดูจะก่อให้เกิดความอ่อนไหวบางประการขึ้นในประเทศไทย เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลสิงคโปร์กำลังพยายามที่จะเข้าควบคุมทรัพย์สินยุทธศาสตร์เช่นนั้น ดังนั้น ควรหรือไม่ที่รัฐบาลหรือกระทรวงการคลังจะให้คำชี้แนะบางประการแก่เทมาเส็กในเรื่องการเข้าไปถือครองกิจการ" เป็นกระทู้ถามของ ส.ส.อินเดอร์จิต ซิงห์

ทางด้านรัฐมนตรีคลังคนที่สองของสิงคโปร์ตอบว่า ทันทีที่เห็นกันว่ารัฐบาลเข้าไปเกี่ยวกับในกระบวนการตัดสินใจเรื่องการลงทุนแล้ว ทุกครั้งที่เกิดการทำธุรกรรมซึ่งผิดพลาดขึ้นมา ในการลงทุนขนาดใหญ่ๆ (ซึ่งจริงๆ ย่อมจะต้องเกิดธุรกรรมที่ผิดพลาดขึ้นได้เป็นระยะๆ อยู่แล้ว) ความผิดพลาดดังกล่าวย่อมส่งผลสะท้อนย้อนกลับมาที่รัฐบาลด้วย เช่นเดียวกันส่งผลสะท้อนย้อนกลับต่อเทมาเส็ก

อย่างไรก็ตาม นายธาร์มานก็อธิบายว่า การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงย่อมให้ผลตอบแทนดีกว่ามาก และในการทำข้อตกลงเรื่องชินคอร์ป ก็มิใช่การลงทุนอย่างสะเพร่าไม่รอบคอบ แต่เทมาเส็กมีการเสาะหาคำปรึกษาหารืออย่างดีที่สุดก่อนลงมือปฏิบัติการ

นายธาร์มานยังถูกถามว่า การครอบครองกิจการเช่นนี้ ควรจะต้องมีการประเมินผลทางการเมืองด้วยหรือไม่ เนื่องจากดีลชินคอร์ปได้ทำให้เกิดปฏิกิริยาด้านลบในหมู่คนไทย

รัฐมนตรีคลังคนที่สองสิงคโปร์ตอบว่า ทันทีที่ทำเช่นนั้น ธุรกรรมต่อๆไปทุกอย่าง มิต้องถูกพิจารณากันไปหมดหรือว่า มันเข้ากับนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลสิงคโปร์แค่ไหน

เขายืนยันว่า นโยบายของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงการติดสินใจเรื่องการลงทุน เป็นนโยบายที่ถูกต้องแล้ว และเป็นผลประโยชน์ที่สุดทั้งแก่เทมาเส็กและแก่รัฐบาลเอง

ไตรมาส 3 ชินกำไรลดลงกว่า 1,000 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN ได้รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 855.43 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.27 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,876.56 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.63 บาท ลดลงจากปีก่อน 1,021.13 ล้านบาท คิดเป็น 54.42%

ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 4,680.32 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.51 บาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 6,583.06 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.20 บาท หรือกำไรสุทธิลดลง 1,902.74 ล้านบาท คิดเป็น 28.90%

โดยสาเหตุที่ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ลดลงกว่า 54.41% เกิดจากส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียลดลง 978.26 ล้านบาท จากไตรมาส 3 ปี 2548 จำนวน 1,874.09 ล้านบาท เหลือ 895.83 ล้านบาท หรือลดลง 52.20%

ทั้งนี้ จากการพิจารณากำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียของ SHIN ปรากฏว่า ลดลงทุกบริษัท เช่น บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำนวน 1,561 ล้านบาท ลดลง 12.84% บมจ.ชิน แซทเทลไลท์ -309 ล้านบาท ลดลง 598.39% บมจ. ไอทีวี 26 ล้านบาท ลดลง 61.76% อื่นๆ -382 ล้านบาท ลดลง 712.77%

สำหรับสาเหตุที่กำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียของ SHIN ลดลง เกิดจากบริษัทย่อยที่ SHIN ถือหุ้นอยู่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ลดลงเกือบทุกบริษัท โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียน 4 แห่ง ซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเกิดจากกลุ่มชินคอร์ปไม่ได้การเอื้อประโยชน์ทางการเมือง หลังจากหมดยุคสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC กำไรสุทธิ 3,653.31 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.24 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 4,178.48 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.42 บาท หรือกำไรสุทธิลดลง 525.17 ล้านบาท คิดเป็น 12.57% บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL กำไรสุทธิ 62.95 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.10 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 41.71 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท หรือเพิ่มขึ้น 50.92%

บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV กำไรสุทธิ 88.75 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท ลดลงจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 168.46 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.14 บาท หรือลดลง 47.32% และบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL ขาดทุนสุทธิ 746.82 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.68 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 154.43 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.14 บาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้นกว่า 583.60%

ขาดทุนมูลค่าหุ้น 6 หมื่นล้าน

ขณะเดียวกัน ผู้จัดการรายวัน ได้เปรียบเทียบราคาหุ้นในราคาที่กลุ่มเทมาเส็กเข้ามาซื้อหุ้น SHIN จากตระกูลชินวัตร และดามาพงษ์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 และรับซื้อหุ้นจากประชาชนทั่วไป (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท รวมจำนวนหุ้น 3,076,762,064 หุ้น หรือคิดเป็น 96.29% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 151,531 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุด (14 พ.ย.) ปิดที่ 29.75 บาท ทำให้มูลค่าหุ้นทางบัญชีที่เทมาเส็กถืออยู่ลดเหลือประมาณ 91,534 ล้านบาท หรือลดลงกว่า 59,997 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วน 39.59%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us