|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ในฐานะผู้จัดการกองทุนวายุภักษ์ 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนวายุภักษ์ 1 กำลังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนใหม่ โดยจะให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ตามความเห็นของคณะกรรมการการลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมาผลตอบแทนตราสารหนี้ในรูปของดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นมาพอสมควรทั้งระยะสั้น หรือระยะยาวเฉลี่ยแล้วให้ผลตอบแทนประมาณ 4-5% ต่อปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนมากขึ้นกว่าอดีต และอยู่ในวิสัยที่สามารถลงทุนได้
ทั้งนี้ ในส่วนอายุของตราสารหนี้ที่จะเข้าไปลงทุนนั้น คงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกองทุนได้ปรับอายุการลงทุนในตราสารหนี้ให้ขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งปัจจุบันกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุไม่เกินอายุของกองทุนหรือ ประมาณ 7 ปี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตราสารหนี้ที่อายุยาวกว่านั้นก็สามารถลงทุนได้ แต่กองทุนจะเลือกลงทุนในตราสารที่มีสภาพคล่องเป็นหลัก
อสึ่ง พอร์ตการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ ปัจจุบันมีเงินลงทุนอยู่ประมาณ 35,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนที่ลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท และสัดส่วนที่ลงทุนในหุ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนที่ลงทุนในหุ้นนั้น ที่ผ่านมากองทุนได้ทยอยปรับพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่การปรับพอร์ตดังกล่าวเป็นการปรับพอร์ตแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งการลงทุนในตลาดหุ้นเองก็ยังน่าสนใจจากผลตอบแทนอันเนื่องมาจากการเติบโตของกำไรปีหน้าซึ่งอยู่ประมาณ 5%
"ขณะนี้เป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุน และเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างช่วงก่อนรัฐประหาร และหลังรัฐประหาร แต่ถามว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะไหม ยังตอบไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงของการประเมิน แต่ในแง่ทิศทางการดำเนินงานแล้ว ก็กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคณะกรรมการการลงทุนจะมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง" นายพิชิตกล่าว
สำหรับการจ่ายปันผลของกองทุน นายพิชิตกล่าวว่า ทั้งปีนี้คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยได้ไม่ต่ำกว่า 6.5% ที่จ่ายไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา กองทุนก็ได้จ่ายปันผลไปแล้ว 3.5% ทั้งนี้ การลงทุนของวายุภักษ์ที่ปรับพอร์ตเน้นลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ก็เชื่อว่าจะช่วยให้จ่ายปันผลตามเป้า ได้ แต่ก็คงต้องรอดูสถานการณ์ช่วงปลายปีอีกครั้ง ซึ่งดูแล้วผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นก็น่าจะยังบวกอยู่ แต่ตราสารหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นก็น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กองทุนด้วย
" การจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยจะดูจากหลายปัจจัย ทั้งผลกำไรจากพอร์ตการลงทุนรวม และกำไรสะสมที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ผลตอบแทนจากตราสารหนี้ที่ดีขึ้น แนวโน้มก็น่าจะดีขึ้นไปได้ ซึ่งในปีนี้ก็เชื่อว่าจะอยู่ในวิสัยที่สามารถจ่ายปันผลได้ไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว" นายพิชิตกล่าว
สำหรับกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) รวมประมาณ 1.819 แสนล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 1.799 แสนล้านบาท ในช่วงปลายปีที่แล้ว ทั้งนี้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ดังกล่าว รวมเงินในส่วนที่จ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าไปด้วย
|
|
|
|
|