Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 พฤศจิกายน 2549
เคทีซียิ้มออกกำไรไตรมาส3พุ่ง64%9เดือนกวาดลูกค้าเพิ่มอีก4.5แสนราย             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

บัตรกรุงไทย, บมจ.
นิวัตต์ จิตตาลาน
Credit Card




เคทีซี แสดงผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2549 กำไรสุทธิเติบโต 64% จากไตรมาสก่อน คิดเป็นมูลค่า 132 ล้านบาท รวม 9 เดือน 348 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวมขยายตัว 4.5 แสนบัญชี ทั้งนี้จากปัจจัยแวดล้อมที่ดีขึ้น ผนวกกับการสร้างแคมเปญการตลาดและสร้างการจดจำในแบรนด์เคทีซีผ่านสื่อที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง และการเร่งขยายฐานสู่ภูมิภาค ครึ่งปีหลังมุ่งเน้นขยายสินเชื่อบุคคลมากขึ้น คาดอนาคตสดใส มีศักยภาพสร้างรายได้แก่บริษัท เตรียมพร้อมผนึกกำลังพันธมิตร สรรหาสิทธิประโยชน์สุดคุ้มแก่สมาชิก และลุยสร้างฐานลูกค้าใหม่กลุ่มวัยทำงานที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้าได้ในอนาคต

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศมีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดูได้จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเริ่มทรงตัว ตลอดจนราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ทำให้ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เน้นการขยายฐานสมาชิกในอัตราที่สูง รวมทั้งได้เน้นให้ความสำคัญกับการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากขึ้นเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของสมาชิก ขณะที่ในด้านสินเชื่อบุคคลจะมุ่งให้สมาชิกมีการกู้ยืมไปใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็น มีวินัยในการใช้เงินและใช้คืนอย่างรับผิดชอบ

“จากปัจจัยข้างต้นส่งผลให้ผลการดำเนินงานตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 453,165 บัญชี เติบโตกว่า 124% จากสิ้นปี 2548 และจนถึงสิ้นไตรมาส 3 มีจำนวนสมาชิกในทุกธุรกิจรวมทั้งสิ้น 1,642,803 บัญชี แยกเป็นบัตรเครดิต 1,368,623 บัตร สินเชื่อบุคคล 270,523 บัญชี และสินเชื่อเจ้าของกิจการ 3,657 บัญชี ซึ่งหากพิจารณาจากระยะเวลา 9 เดือน พบว่ามีจำนวนสมาชิกใหม่ของลูกค้าเคทีซี แคช (KTC Cash) เพิ่มขึ้นถึง 180,948 บัญชี คิดเป็น 357% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการสร้างให้เกิดการจดจำในแบรนด์ของเคทีซีผ่านการโฆษณาทางรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ และสิ่งพิมพ์ต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นเมื่อลูกค้าต้องการทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ลูกค้าจะเลือกใช้บริการของเคทีซีมากกว่าที่จะเลือกใช้ผ่านสถาบันการเงินรายอื่นๆ นั่นเอง” นายนิวัตต์กล่าว

และจากอัตราการเพิ่มขึ้นของฐานสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้รวมสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,766 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 37% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าเกือบเท่ากับรายได้รวมของปี 2548 ทั้งปี โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ย (รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีสัดส่วนคิดเป็น 68% และ 28% ของรายได้รวม สำหรับในไตรมาสที่ 3 นี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 2,100 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งรายได้ดอกเบี้ยรับรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคชเป็นหลัก

สำหรับยอดค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาสนี้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีค่าใช้จ่ายหลักที่มีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ที่สำคัญ 3 รายการ คือค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ที่เพิ่มขึ้น 3% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อย ทั้งนี้เป็นผลจากความพยายามที่จะควบคุมค่าใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง 2% จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากฐานสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นไม่มากเท่ากับจำนวนสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 2 จึงมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มในจำนวนที่ลดลงตามไปด้วย และรายการค่าใช้จ่ายที่สำคัญส่วนสุดท้ายคือ ดอกเบี้ยจ่ายที่มีมูลค่าสูงขึ้น แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (Repurchase Rate) จะเริ่มทรงตัวอยู่ที่ระดับ 5% ในไตรมาสนี้ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ที่เริ่มทรงตัวตามอัตราดอกเบี้ยตลาด แต่ฐานเงินกู้ยืมของบริษัทฯ ยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามมูลค่าของพอร์ตที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทฯ ยังคงมีภาระต้นทุนทางการเงินเป็นจำนวนเงินที่สูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ มีต้นทุนเงินทุนสำหรับ 9 เดือน ปี 2549 เท่ากับ 4.8%

อย่างไรก็ตามการที่บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลจากการใช้กิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร และการเพิ่มสมาชิกใหม่ที่ใช้บริการด้านสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช รีโวลฟ (KTC Cash Revolve) ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้รวมและกำไรที่ยั่งยืนของบริษัทฯ ในอนาคต โดยในส่วนของบัตรเครดิตได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิก มุ่งเน้นให้ฐานลูกค้าบัตรเครดิตที่มีอยู่ใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น และด้านสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช ได้จัดให้สิทธิพิเศษตลอดจนให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับสมาชิกอีกด้วย

สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 37,215 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากสิ้นปี 2548 ลูกหนี้การค้าสุทธิจำนวน 35,202 ล้านบาท ประกอบด้วยลูกหนี้บัตรเครดิต (รวมธนวัฏบัตรเครดิต) 25,293 ล้านบาท ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช 6,180 ล้านบาท และลูกหนี้สินเชื่อเจ้าของกิจการ (KTC Million) สุทธิ 3,729 ล้านบาท

ผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช รีโวลฟ ที่มีการขยายตัวของพอร์ตที่ดี ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็ยังคงสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจบัตรเครดิตซึ่งเป็นธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม ทำให้ผลประกอบการในงวดบัญชีไตรมาสที่ 3 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 132 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 64% จากไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนกำไรสุทธิงวด 9 เดือนมีจำนวน 348 ล้านบาท

ส่วนการดำเนินงานไตรมาสสุดท้าย บริษัทฯ จะเน้นการเพิ่มขึ้นของสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช รีโวลฟ มากกว่าด้านอื่น แต่ทั้งนี้จะไม่มุ่งขยายตลาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในด้านของการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่มีคุณสมบัติที่พร้อมจะมีบัตรเครดิตหรือใช้บริการสินเชื่อบุคคล แต่เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพ บริษัทฯ ก็ได้ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยได้ออก “บัตรเคทีซี 24” ซึ่งเป็นบัตรสิทธิพิเศษสำหรับตอบสนองความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเริ่มเกิดความคุ้นเคยและมีความวางใจในแบรนด์ของเคทีซี ซึ่งหากในอนาคตลูกค้าบัตรเคทีซี 24 มีความพร้อมที่จะสมัครบัตรหรือบริการสินเชื่ออื่นๆ ก็สามารถใช้บริการของเคทีซีได้ทันที

“นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเร่งขยายฐานสมาชิกสู่ตลาดภูมิภาคให้มากขึ้น เพราะเห็นถึงโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เนื่องจากปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคตามจังหวัดในหัวเมืองใหญ่จะใกล้เคียงกับสังคมเมืองในกรุงเทพฯ มากขึ้น ผู้บริโภคมีอำนาจการจับจ่ายและความต้องการเครื่องมือทางการเงินที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพสูงขึ้น อีกทั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยังทำให้สมาชิกได้รับสิทธิประโยชน์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมากกว่าการใช้จ่ายผ่านเงินสด แต่อย่างไรก็ตาม การขยายขอบเขตสมาชิกสู่ภูมิภาค บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อความเข้มงวดในการอนุมัติสมาชิกใหม่อย่างรอบคอบและรัดกุม โดยพิจารณาจากความสามารถในการชำระคืนของสมาชิกเป็นสำคัญ เพื่อประโยชน์ในการสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงแก่บริษัทฯ และระบบการเงินของประเทศในระยะยาว” นายนิวัตต์กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us