ดีทแฮล์มเผยแผนปลุกปั้นแบรนด์เอเว้นท์ปีหน้า รับมือตลาดสินค้าเด็กแข่งดุ ปรับกลยุทธ์ลุยตลาดขยายสู่กลุ่มระดับกลางมากขึ้น เน้นทำตลาดรูปแบบแพ็ค ขายถูกกว่า มั่นใจดันยอดขายรวมโต 30%

นายศุภฤกษ์ ชีวะโกเศรษฐ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์อุปโภค – ฝ่ายเครื่องอุปโภค บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ของเล่น “เลโก้” ,ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเอเว้นท์ และแม็กซี่โคซี่(รถเข็น) เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดในปีหน้าว่า บริษัทฯจะรุกทำตลาดแบรนด์เอเว้นท์ โดยจะทำการตลาดแบบเจาะกลุ่มของสินค้าแบบแพ็กเพื่อเป็นการขยายตลาดในระดับกลางให้มากขึ้น เพื่อเป็นการขยายตลาดออกสู่วงกว้างและเป็นการสร้างยอดรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งบริษัทฯยังมีแผนขยายช่องทางออกสู่ต่างจังหวัดและตามหัวเมืองใหญ่ๆอีกด้วย

ทั้งนี้การทำสินค้าในรูปแบบแพ็ก หวังจับตลาดกลุ่มผู้เป็นแม่ที่มีความห่วงใยสุขภาพของเด็กรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ซึ่งการทำตลาดแบบแพ็กเป็นการจับตลาดในระดับกลางครั้งแรก โดยราคาถูกกว่าสินค้าแยกขายอยู่ประมาณ 5- 10% เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายที่สุด

สาเหตุหนึ่งที่บริษัทฯให้ความสนใจจับตลาดกลาง เพราะปีหน้าการแข่งขันมีแนวโน้มการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายต่างปรับกลยุทธ์กันเรื่องราคาโปรโมชั่น รวมถึงการปรับแพ็กเกจจิ้งให้สอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด

สำหรับการทำตลาดนั้น บริษัทฯได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ 15-20% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งรูปแบบการทำตลาด จะเน้นเจาะในแต่ละเซ็กเมนต์ให้มีความชัดเจน รวมถึงการจัดกิจกรรม อีเวนต์ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น

อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะเน้นการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์เอเว้นท์ให้ลูกค้ารู้จักมากขึ้น ล่าสุดบริษัทฯได้เข้าร่วมงาน “ไทยแลนด์ เบบี้ แอนด์ คิดส์ เบท บาย 2007 " ซึ่งจัดขึ้นที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ในวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งบริษัทคาดว่าภายในงานจะมีผู้เข้ามาชมกว่า 5 แสนคน ซึ่งจะส่งผลต่อการรับรู้ระหว่างผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

“ที่ผ่านมาการทำตลาดของแบรนด์เอเว้นท์จะจับตลาดระดับบน เพราะว่ามีราคาขายในระดับพรีเมียม ทำตลาดผ่านช่องทางจำหน่ายของห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ประกอบด้วย เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน ซึ่งช่องทางดังกล่าวสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ และส่งผลให้ยอดขายของเอเว้นท์มีการเติบโตได้ถึง15- 20% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตมากที่สุดในกลุ่มสินค้าทั้งหมดที่มีอยู่ เราจึงขยายตลาดไปสู่ระดับกลางด้วย”

สำหรับยอดรายได้รวมปีนี้บริษัทฯคาดว่า จะมีอัตราการเติบโต 25-30% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า100 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้ดังนี้ เลโก้ 60% เอเว้นท์ 30% และแม็กโคซี่ 10%