Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 พฤศจิกายน 2549
แอล.เอ็ม.อี.แตกไลน์ธุรกิจเสื้อผ้าทุ่ม60ล.ปั้นซีออฟไลฟ์             
 


   
search resources

Marketing
Garment, Textile and Fashion
แอล.เอ็ม.อี., บจก.




แอล.เอ็ม.อี.แตกไลน์ธุรกิจใหม่จากเสื้อผ้าสู่กลุ่มความงาม ล่าสุดนำเข้าผลิตภัณฑ์ “ซี ออฟ ไลฟ์” จากทะเลเดดซี ชูจุดเด่นสินค้าภาพลักษณ์สูงแต่ราคาปานกลาง ลุยทำตลาดไทยทั้งค้าปลีกและช่องทางสปา เผยแผนปีหน้าเตรียมงบลงทุน 60 ล้านบาททั้งทำตลาดและขยายสาขาเพิ่มกว่า 5 แห่ง ตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 100 ล้านบาท

ดร.พงค์ศานติ์ อภิรติเกียรติ กรรมการบริหาร บริษัท แอล.เอ็ม.อี. จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า 7 แบรนด์ อาทิ เอสพาด้า(Espada) ,อีเอสพี(ESP),อีพี(EP) และร็อค เอ็กซ์เพรส (Rock Express) ฯลฯ เปิดเผยว่า บริษัทฯเล็งเห็นช่องว่างของธุรกิจเพื่อความงามในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงในแต่ละปี ประกอบกับคนรุ่นใหม่พิถีพิถันในการดูแลสุขภาพและผิวพรรณตัวเองมากขึ้น ดังนั้นบริษัทฯจึงได้บุกตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม โดยการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ซี ออฟ ไลฟ์(See of Life)” ในตลาดประเทศไทยและย่านภูมิภาคนี้ ยกเว้นไต้หวันและจีน

แผนการทำตลาดสินค้าตัวใหม่นี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางค้าปลีก ซึ่งบริษัทฯจะทำการตลาดเอง โดยจะมีการเปิดสาขาทั้งในรูปแบบแฟลกชิฟ สโตร์และเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า ล่าสุดร้านซี ออฟ ไลฟ์ในรูปแบบแฟลกชิฟสโตร์มี 1 แห่งที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเปิดบริการไปแล้วกว่า 1 เดือนพบว่าได้รับการตอบรับดี โดยสาขานี้ใช้งบลงทุนกว่า 5 ล้านบาทแบ่งเป็นงบลงทุนร้าน 2 ล้านบาทและสต็อกสินค้า 3 ล้านบาท ภายใต้พื้นขนาด110 ตารางเมตร ต่อจากนั้นบริษัทฯมีแผนขยายสาขาเพิ่ม อาทิ โรบินสัน ซีคอนสแควร์ คาดว่าจะเปิดปลายเดือนพ.ย.นี้ และห้างเซน คาดว่าจะเปิดได้เดือนธ.ค.2549

ส่วนช่องทางที่สอง คือ ร้านสปา บริษัทฯจะนำสินค้าซี ออฟ ไลฟ์และทรีตเมนต์เมนูไปนำเสนอสปากลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในระดับกลางจนถึงระดับบน ซึ่งขณะนี้มีสปาบางแห่งเริ่มนำสินค้าเข้าไปแล้ว โดยปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะมีสปาที่สนใจจะนำสินค้าเข้าไปประมาณ 30-50 แห่ง อาทิ สปาที่อยู่ในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลักอย่างภูเก็ต,เชียงใหม่และหัวหิน

สำหรับผลิตภัณฑ์ของซี ออฟ ไลฟ์จะมีจุดเด่นที่วัตถุดิบหรือส่วนผสมจะนำมาจากทะเลเดดซี ประเทศอิสราเอล ปัจจุบันสินค้าที่จำหน่ายในไทยมีให้เลือกกว่า 500 เอสเคยู แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กลุ่มผม,กลุ่มผิวหน้าและร่างกาย โดยบริษัทฯยังมีบริการอื่นๆ เช่น ทำทรีตเมนต์หน้า สปามือ และสปาเท้า ในสาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ส่วนโพซิชั่นนิ่งของตัวสินค้าจะมีภาพลักษณ์ที่สูงแต่ราคาปานกลางหรือประมาณ 100-1,800 บาท

ขณะที่คู่แข่งของซี ออฟ ไลฟ์บริษัทฯคาดว่าจะเป็นบอดี้ชอปและอีฟโรเช่ รวมถึงระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ เช่น ล็อคซิทาน ซึ่งหากเทียบระดับราคาจะพบว่าซี ออฟ ไลฟ์จะถูกกว่าบอดี้ชอปอยู่10-20% ทั้งนี้หลังจากเปิดตลาดได้กว่า 1 เดือนพบว่าซี ออฟ ไลฟ์มีฐานลูกค้าหรือสมาชิกอยู่ 1,000 ราย ในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มเป็น 10,000 ราย

ดร.พงค์ศานติ์ กล่าต่อว่า แผนการทำตลาดซี ออฟ ไลฟ์ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมงบประมาณไว้ 60 ล้านบาทแบ่งเป็นงบขยายสาขาและซื้อสินค้าใหม่ 40 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบการเปิดสาขาจะเปิดเป็นแฟลกชิฟ สโตร์ 1 แห่งและชอป อิน ชอปในดีพาร์ทเมนต์สโตร์อีก 5 แห่ง ส่วนงบการตลาดอีก10-20 ล้านบาทโดยจะเน้นการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านนิตยสาร,โปรโมชั่น และจับมือกับพันธมิตรอย่างเวดดิ้งสตูดิโอและสินค้าแฟชั่น

สำหรับยอดรายได้ของซี ออฟ ไลฟ์ในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะมีประมาณ 100 ล้านบาท แบ่งเป็นช่องทางค้าปลีก 80% และสปา20%

ส่วนการทำตลาดต่างประเทศบริษัทฯจะเริ่มทำหลังจากทำตลาดในไทยเป็นระยะเวลา 6 เดือน ล่าสุดมีส่งสินค้าไปจำหน่ายที่สิงคโปร์และอินเดียแล้ว ทั้งนี้รูปแบบการทำตลาดในต่างประเทศของบริษัทฯอาจทำในรูปแบบต่างๆ เช่น หาคู่ค้าหรือพันธมิตร เป็นต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us