MFEC รุกซื้อหุ้น โมเดอร์นฟอร์ม อินทิเกรชั่น เซอร์วิสเซส ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน 64,130,000 บาท หรือ 6,412,993 หุ้น ซึ่งบริษัทออกหลักทรัพย์เพื่อแลกเปลี่ยนกับผู้ถือหุ้นเดิม 17 ล้านหุ้น ตามนโยบายการลงทุนกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจซอฟร์แวร์หวังขยายขอบเขตการทำธุรกิจ และต้องมีอำนาจในการบริหาร พร้อมเปิดให้ผู้ถือหุ้นเสนอวาระประชุมล่วงหน้า ระหว่าง 8 พ.ย.49--31ม.ค.50 นี้ ก่อนที่จะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้น

นายอดิเรก ปฏิทัศน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) แจ้งแจ้งติที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2548 ว่าที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ซื้อหุ้นบริษัท โมเดอร์นฟอร์ม อินทิเกรชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (MIS) ในสัดส่วนร้อยละ100 มูลค่าตราไว้หุ้นละ 10 บาท ของทุนจดทะเบียน 64,130, 000 บาท เป็นจำนวน 6,412,993 หุ้น (บริษัทออกหลักทรัพย์เพื่อแลกเปลี่ยนกับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 17,000,000 หุ้น) ณ วันที่บริษัทเข้าลงทุน MIS ได้ลงทุนในบริษัทย่อย 2 บริษัท โดยมีรายละเอียดการลงทุนในบริษัท ย่อยดังนี้

บริษัท เอ็ม ไอ เอส เอาท์ซอร์ซิ่ง จำกัด (MISO) ดำเนินธุรกิจ ให้บริการในการจัดหาบุคลากรเพื่อทำหน้าที่ ควบคุมดูแลและบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยี สารสนเทศขององค์กร ซึ่ง MIS ถือหุ้น ร้อยละ 80 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 3 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 แสน หมื่นหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท และภายหลังจากการเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 มูลค่า 5 ล้านบาท ( จำนวน 5,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) คิดเป็นเงินที่ลงทุน 2,399,940 บาท ภายหลังจากการเพิ่มทุน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 มูลค่า 3,999,940 บาท ซึ่งวัตถุประสงค์ของการลงทุนในบริษัทนี้เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรองรับ การขยายธุรกิจ

ขณะที่ บริษัท สกายบลิทซ์ (1995) จำกัด (SKY) ดำเนินธุรกิจให้บริการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม (Enterprise ResourcePlanning : ERP ) โดย MIS ถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 5 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 แสนหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท และภายหลังจากการเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2548 มูลค่า 20 ล้านบาท หรือ 2 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นเงินที่ MIS ลงทุนมูลค่า 4,999,940 บาท ภายหลังจากการเพิ่มทุน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2548 มูลค่า 19,999,940 บาท โดยวัตถุประสงค์ของการลงทุนในครั้งนี้คือ เพื่อขยายและรับบุคลากรที่มีความสามารถในการ พัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูป รวมทั้งใช้เป็นทุน หมุนเวียนในการดำเนินงาน

ทั้งนี้ MFEC มีนโยบายด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดของกิจการ เพื่อให้มีอำนาจในการบริหารงานพร้อมทั้งสามารถกำหนดนโยบายและผลตอบแทนทางการเงินในอนาคต โดยมุ่งเน้นการร่วมลงทุนกับบริษัทซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจ

พร้อมกันนี้ บริษัท ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ถือหุ้น และมุ่งหวังให้ผู้ถือหุ้นได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน บริษัทจึงขอเรียนเชิญท่านผู้ถือหุ้น เสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2550 ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น โดยจะเปิดรับการเสนอวาระการประชุมในระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน 2549 ถึง 31 มกราคม 2550 ผ่านทางจดหมาย อิเล็คทรอนิคส์ secretary@mfec.co.th หรือจัดทำเป็นหนังสือส่งถึงบริษัทได้

ขณะที่ผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ของบริษัทพบว่ามีกำไรสุทธิ 22.12 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.19 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น