4 หุ้นน้องใหม่เล็งเข้าซื้อขายพ.ย.-ธ.ค.นี้ ปลุกตลาดเอ็มเอไอคึกคัก "ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล"นำร่องหุ้นไอพีโอแรก "บ้านร็อคการ์เด้น-อีเทอร์นิตี้-เด็มโก้"แห่ตาม ผู้บริหาร UKEMมั่นใจหุ้นเข้าเทรดวันแรกราคายืนเหนือจอง เหตุราคาที่กำหนด 2.52 บาทมีส่วนลดให้กับนักลงทุนที่จองซื้อ

แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอหรือ mai เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหุ้นใหม่จำนวน 4 บริษัทที่ได้กำหนดวันที่จะเข้ามาซื้อขายแล้ว ประกอบด้วยบริษัทยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด(มหาชน)ซึ่งจะเข้าซื้อขายภายในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้,หุ้นบริษัทบ้านร็อคการ์เด้น จำกัด(มหาชน)จะเข้าซื้อขายภายในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้,บริษัทอีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด(มหาชน)จะเข้าซื้อขายภายในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ และบริษัทเด็มโก้ จำกัด(มหาชน) ซึ่งจะเข้าซื้อขายภายในเดือนธันวาคมนี้

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีตนถึงเดือนตุลาคมมีหุ้นใหม่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอแล้ว 2 บริษัทได้แก่บริษัทถิรไทย จำกัด(มหาชน)หรือ TRTและบริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES

นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือUKEMเปิดเผยว่า หุ้นของบริษัทจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ภายในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งมั่นใจว่าราคาหุ้นจะสามารถปรับตัวสูงกว่าราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ 2.52 บาท เนื่องจากระดับราคาจองดังกล่าวถือว่ามีส่วนลดให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น ดังนั้นจึงถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลทำให้อัตราหนี้สินสุทธิอยู่ในระดับ 1.3-1.4 เท่า ซึ่งลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้อยู่ในระดับ 1.8 เท่า

ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่ารายได้ปี 2549 จะมากกว่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี2548ที่มีรายได้ 1,500 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 1,396 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,133 ล้านบาท ส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้จะมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับภายในปี 2550 บริษัทฯยังคงเน้นธุรกิจด้านอุตสาหกรรมสีรถยนต์ และอุตสาหกรรม บรรจุภัณฑ์ โดยปัจจุบันบริษัทจัดทำด้านเคมีภัณฑ์ 7 หมวด ประกอบด้วยAromatic,Alipnatic,Alcohol,glycol,ketonnc,Ester,Monomer ขณะที่บริษัทนำเข้าสารเคมีภัณฑ์ประมาณ 10% ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการทางด้านเคมีภัณฑ์ที่มีส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เกตแชร์)อยู่ที่ 1 ใน 3 ของประเทศ จากตลาดรวมที่ประมาณ 20,000 กว่าล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออก รวมถึงจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่ใช้สารทำละลายหรือ โซลเว้นท์ (Solvents) ซึ่งเป็นผลผลิตจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมสี อุตสาหกรรมหมึก อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ อุตสาหกรรมเรซิ่น และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับพลาสติกและบรรจุภัณฑ์

ส่วนนโยบายการจ่ายเงินปันผลบริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น 40% ของกำไรสุทธิ โดยงวดสิ้นปีนี้คาดว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ หากบริษัทฯมีกระแสเงินสดเพียงพอ ก็พร้อมที่จะจ่ายปันผลได้ทันที

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน)ในฐานะ แกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วมีความมั่นใจว่าราคาหุ้นบริษัทยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล ที่จะเสนอขายภายในวันที่ 13-15 พฤศจิกายน จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาจองซื้อหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในด้านการจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์มานานกว่า 25 ปี ประกอบกับบริษัทมีพื้นฐานที่มั่นคง จากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และฐานลูกค้าที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีบริษัทย่อยที่ช่วยส่งเสริมกำไรธุรกิจให้เพิ่มขึ้นซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผลประกอการโตอย่างต่อเนื่อง

นายวิเชียร เอื้อสงวนกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัดกล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลหรือไฟลิ่งบริษัทไทยง้วนเมทัลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.แล้ว ส่วนจะกระจายทันในปีนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสำนักงานก.ล.ต.จะให้ความเห็นชอบเมื่อใด นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทจะนำบริษัทไทยง้วนเอธานอลเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกหนึ่งบริษัท