|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“บุญชัย” เชื่อรัฐต้องมีการแปรสัญญาสัมปทานโทรคมนาคมเป็นหุ้น ใช้เม็ดเงินไปลงทุนอย่างอื่น ในแบบเศรษฐกิจพอเพียง เห็นพ้องกับประธาน กทช. ให้ทีโอทีลงทุนโครงข่ายหลัก แนะไม่ควรแข่งกับเอกชน เพราะขาดความคล่องตัว ชี้จำเป็นต้องขายหุ้นทิ้ง กลัวสูญพันธุ์เพราะสิงเทลครอบครองเน็ตเวิร์ก หากดัมป์ราคาดีแทคเจ๊ง
นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานสหกรณ์ร่วมด้วยช่วยกัน และอดีตนายใหญ่กลุ่มยูคอม กล่าวถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในไทยว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จะเป็นผู้ชี้ผิดชี้ถูก ส่วนเรื่องการแปรสัญญาร่วมการงานกับเอกชนที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่ายังจะมีการแปรสัญญาสัมปทานเป็นหุ้น เพราะหากมองในอีกมุม บริษัทโทรคมนาคมขณะนี้เป็นโกลบอล ซึ่งหากมีการแปรสัญญาสามารถที่จะนำเงินไปลงทุนทำอย่างอื่นได้อีก และ กทช. เองก็ต้องยึดถือเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง โดยโครงข่ายหลักหรือแบ็กโบนให้ทีโอทีทำ ผู้ที่ขอใบอนุญาตหรือไลเซนส์ประเภทที่ 3 (มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง) ไม่ต้องลงทุนเรื่องของโครงข่ายหลักมาก แต่จะเช่าของทีโอทีเป็นหลัก
อย่างกรณีของการสื่อสารยุคที่ 3 หรือ 3จี ใครต้องการลงก็ลงไปและก็ใช้โครงข่ายทีโอที เพราะ 3จี 2จี ต่างกันที่อุปกรณ์เท่านั้น สามารถใช้เสาที่เป็นสถานีฐานที่เป็นเสาต้นเดียวกันได้ ไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินลงทุนใหม่ ผู้ประกอบการรายเดิมสามารถอัปเกรดเป็น 3จีได้ โดยมีแบ็กโบนของทีโอที ขณะเดียวกันทีโอทีก็ไม่ควรไปทำธุรกิจแข่งกับเอกชน เพราะขาดความคล่องตัวในการตัดสินใจ ซึ่งต่างจากเอกชน เพียงแค่ 2 นาที ก็สามารถตัดสินใจดัมป์ราคาได้
“ผมไม่อยากไปสอนเขา แต่คิดตรงกับประธาน กทช. เรื่องการแข่งขันด้านราคา เมื่อเรื่องของค่าเชื่อมโครงข่ายหรือไอซีเสร็จก็ดัมป์ราคาไม่ได้แล้ว”
ในสายตาของบุญชัยเห็นว่า การจะทำให้สัญญาสัมปทานเดิมหมดไปต้องแปรสัญญา 2จี เพราะไม่เช่นนั้นเชื่อว่าจะไม่มีผู้ประกอบการรายไหนจะมาขอไลเซนส์ 3จี เนื่องจากต้องใช้เม็ดลงทุนสูงถึงหลักหมื่นล้านบาท “ที่จะมาขอไลเซนส์ 3จี ซึ่งเป็นประเภทที่ 3 ไม่มีผีที่ไหนเอา เพราะต้องลงทุนเรื่องโครงข่ายเป็นหมื่นล้าน”
นายบุญชัยกล่าวถึงกรณีการขายหุ้นกลุ่มยูคอมให้กับเทเลนอร์ว่า ขณะนั้นถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างเชื่อว่าธุรกิจสูญพันธุ์แน่ แต่การดำเนินการไม่ได้ทำเหมือนชินคอร์ป โฮลดิ้ง คอมพานีก็ทำถูกต้องตามกฎหมาย และที่สำคัญมีความแตกต่างกันคือ 1.ขนาดหรือไซต์ในการดีลต่างกันถึง 10 เท่า 2.ไม่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของประเทศ เช่น ทีวี หรือดาวเทียมที่สิทธิวงโคจรของไทยมีเพียงที่ชินคอร์ปได้ไปเท่านั้น และก็ต้องตกเป็นของต่างชาติไป “ผมตัดสินใจขายหุ้น เพราะถ้าไม่ทำอะไร สูญพันธุ์แน่ สิงเทลโดมิเนตเน็ตเวิร์ก ถ้ามันดัมป์ราคาดีแทคเจ๊งเลย”
สำหรับตัวของบุญชัยเอง เขายืนยันว่ายังอยู่ในธุรกิจโทรคมนาคม แต่ต้องการผลักดันเรื่องของสหกรณ์ร่วมด้วยช่วยกัน โดยเฉพาะเรื่องข้าวที่มีคอนเซ็ปต์คือทุนใหญ่เกื้อทุนเล็ก โดยมีดีแทคเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินปีละ 3.5 ล้านบาท ให้ประสบความสำเร็จก่อน ขณะที่กิจการด้านสื่อสารสนเทศก็มีการผลิตเนื้อหาสาระหรือคอนเทนต์ผ่านเว็บไซต์ www.rakbankerd.com
นอกจากนี้ ยังมีแผนจะตั้งร้านรักบ้านเกิดไอทีที่กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก ซึ่งบุญชัยเองจะมีหน้าที่สอนคนที่มาจากทุกภาคของประเทศไทยให้เป็นนักธุรกิจที่ใช้สื่อสารสนเทศเป็นหลัก
|
|
|
|
|