หุ้นทีพีไอโพลีน สุดคึกพุ่งต่อเป็นวันที่ 7 ล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 37% นักวิเคราะห์ชี้ 2 ประเด็นหลักได้รับผลดีจากการที่ประชาชนต้องซ่อมแซมบ้านเรือนหลังประสบอุทกภัยมาตลอดทั้งปี บวกกับข่าวลือนักลงทุนรายใหญ่หันมาไล่ราคาหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเพราะอาจจะส่งผลกระทบตอบจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ทีพีไอ โพลิน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL หลังจากราคาหุ้นปรับตัวค่อนข้างรุนแรงอย่างต่อเนื่องในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมาตอบรับข่าวการคาดการณ์ผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะออกมาค่อนข้างดี เนื่องจากยอดการสั่งซื้อปูนซีเมนต์ปรับตัวสูงขึ้นภายหลังหลายจังหวัดในประเทศประสบกับอุทกภัย ทำให้ประชาชนต้องซ่อมแซมบ้านเรือนหลังได้รับความเสียหาย รวมถึงกระแสข่าวนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเก็งกำไร

สำหรับราคาหุ้นวานนี้ (8 พ.ย.) ปิดที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 7.69% มูลค่าการซื้อขาย 708.14 ล้านบาท โดยหากเทียบกับราคาปิดเมื่อ (30 ต.ค.) ราคาปรับเพิ่มขึ้นถึง 3.80 บาท หรือ 36.89%

นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น TPIPL ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน โดยลักษณะการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นการปรับขึ้นแบบมีการเข้ามาไล่ราคาหุ้น ซึ่งนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนหุ้น TPIPL ในช่วงนี้ควรจะต้องรอประเมินสถานการณ์ความพร้อมก่อนว่าจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ สัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปแตะระดับประมาณ 15 บาทโดยแนวต้านสำคัญอยู่ที่ประมาณ 13.20 บาท หากราคาสามารถยืนได้ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้

นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น TPIPL ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง น่าจะมาจากการคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับผลประกอบการทั้งปีของบริษัทที่น่าจะออกมาในเชิงบวก ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นและทำให้ราคาหุ้นหุ้นนี้ปรับตัวเพิ่มในช่วงที่ผ่านมา โดยสัญญาณในเชิงเทคนิค TPIPL มีแนวรับที่ 11.30 บาท แนวต้านอยู่ที่ 12.60 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไรได้

แหล่งข่าวจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ประเด็นที่ตอบรับในกรณีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น TPIPL ที่มีกระแสข่าวว่ามีนักลงทุนรายใหญ่บางรายเข้ามาไล่ราคาหุ้น เพราะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องการที่จะไม่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้ามาตรวจสอบเพราะถือว่าเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่นอกเหนือจากนักลงทุนในประเทศแล้วนักลงทุนต่างชาติก็ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก

"การเข้ามาไล่ราคาหุ้นขนาดเล็กเหมือนอดีตที่ผ่านมาทำให้การตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ทำได้ง่าย เพราะว่าไม่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวมเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติไม่ได้เข้ามาลงทุน"

นอกจากนี้ การตอบรับข่าวกรณีที่กลุ่มนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารของบริษัทใช้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเป็นประเด็นที่นักลงทุนหยิบมาเก็งกำไรเนื่องจากส่งผลดีต่อบริษัทในแง่ของจิตวิทยา แต่ตามปัจจัยพื้นฐานยังคงแนะนำขาย โดยให้ราคาพื้นฐานของบริษัทอยู่ที่ 8.50 บาท เนื่องจาก TPIPL ยังคงมีความเสี่ยงในเรื่องของกำไรที่อาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากเพราะแนวโน้มของธุรกิจปิโตรเคมีมีโอกาสที่จะชะลอการเติบโต