|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บล.บัวหลวงตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ปีหน้า 4% จากการขยายฐานลูกค้ารายย่อยและสถาบันอย่างต่อเนื่อง และจับมือกับแบงก์กรุงเทพขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น พร้อมประเมินตลาดหุ้นสิ้นปีนี้ดัชนีไต่ระดับ 750 จุด
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เกตแชร์)ของปี 2550 ไว้ที่ 4% เนื่องจากบริษัทจะขยายฐานลูกค้ารายย่อยและสถาบันให้มากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะเน้นลูกค้าในกลุ่มสถาบันให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 30% ขณะที่ลูกค้ารายย่อยมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าในส่วนของลูกค้าในกลุ่มสถาบันให้มีสัดส่วนที่เท่ากับลูกค้ารายย่อยภายในอนาคต
ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 หมื่นบัญชี จากปีนี้ที่มีบัญชีลูกค้าจำนวน 18,000 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอภายใน 1 เดือน มีสัดส่วนอยู่ที่ 27-28% ขณะที่บัญชีที่ มีการซื้อขายในระยะ 6 เดือนมีสัดส่วนอยู่ที่ 50%
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มคุณภาพบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ และคุณภาพของเจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เกตติ้ง)ให้มากขึ้น และบริษัทยังได้ฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากการร่วมมือทางด้านธุรกิจกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โดยการเริ่มขยายสาขาที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
“สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯรายได้หลักยังคงเป็นรายได้ค้าหลักทรัพย์ 70-80% และรายได้จากค่าธรรมเนียมด้านวาณิชธนกิจและบริหารกองทุนส่วนบุคคลจะอยู่ที่ 20-30% ซึ่งเราเชื่อว่ารายได้ค่าธรรมเนียมในปีหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก บริษัทมีแผนที่จะพัฒนามาร์เกตติ้งของบริษัท ให้สามารถขายสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น” นายเผดิมภพกล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการเปิดสาขานั้น ภายในเดือน มกราคม 2550 จะสามารถเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปลายเดือนพฤศจิกายน 2549 นี้และจะเปิดให้บริการได้ภายในต้นปีหน้า และภายในอนาคตมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มมากขึ้นอีก
ในส่วนการร่วมมือทางด้านงานวิจัยกับ มอร์แกน สแตนเลย์ (MSCI) ซึ่งขณะนี้บริษัท ยังคงมีการร่วมมือทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยการร่วมมือทางด้านบทวิเคราะห์ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังคงใช้บทวิเคราะห์จาก MSCI
สำหรับภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เชื่อว่า ดัชนีตลาดหุ้นจะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ โดยประเมินดัชนีปีนี้ที่ระดับ 750 จุด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังคงชะลอการลงทุน เพราะค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติหันเข้าไปลงทุนในพันธบัตรมากกว่าที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตามภายในปี 2550 คาดว่าหุ้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก กลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มธุรกิจการเงิน จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากคาดว่าอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสที่ปรับตัวลดลง จากที่ปีนี้ผลการดำเนินงานออกมาไม่ดี
|
|
|
|
|