พรีเชียส ชิพปิ้ง ผลงานไตรมาส 3 ทรุด เหตุรายได้การเดินเรือเฉลี่ยลดลง สวนทางค่าใช้จ่ายที่เพิ่มทุน ทำให้กำไรสุทธิเหลือ 1 พันล้านบาท ลดจากปีก่อน 23% ขณะที่งวด 9 เดือน ลดกว่า 2 พันล้านบาท หรือ 43% เหลือ 2.7 พันล้านบาท
นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,064.68 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.10 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,387.54 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.74 บาท กำไรสุทธิลดลง 322.86 ล้านบาท หรือ 23.27%
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากการเดินเรือสุทธิ (สุทธิจากรายจ่ายท่าเรือและน้ำมันเชื้อเพลิง) ลดลงจากไตรมาสสามปี 2548 ประมาณ 15% และอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐต่อเงินบาทเฉลี่ยของไตรมาส 3 ปีนี้ ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเท่ากับ 12,261 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปี 2548 อยู่ที่ 13,406 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 9%
"อัตราค่าระวางเริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2549 จนถึงพฤษภาคม 2549 ซึ่งเกิดจากอุปทานเรือต่อใหม่ที่มีเข้ามาในตลาดขนส่งสินค้าแห้งเทกอง และความต้องการใช้สินแร่ของประเทศจีนที่ลดลง แต่อัตราค่าระวางเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่มิถุนายน 2549 หลังจากความต้องการจากประเทศจีนที่กลับมา ซึ่งส่งผลต่อรายได้ของบริษัท ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้เมื่อเปรียบเทียบกับสองไตรมาสแรกของปีนี้"
ด้านค่าใช้จ่ายในการเดินเรือลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1% เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐต่อเงินบาทต่ำกว่าปีก่อน ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรืออยู่ที่ 3,586 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 3,029 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 หรือเพิ่มขึ้น 18% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือสำหรับเรือที่มีอายุมากขึ้น
ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาทิ ค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43.34 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและสำรวจเรือ ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 110.52 ล้านบาท
ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 2,722.77 0ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 5.37 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 4,790.69 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 9.46 บาท หรือกำไรสุทธิลดลง 2,067.92 ล้านบาท คิดเป็น 43.17% โดยรายได้จากการเดินเรือสุทธิ ลดลงจากปีก่อน 26% รายได้จากการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรืออยู่ที่ 11,045 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ14,936 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 26%
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 9% สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของการใช้อะไหล่เรือ และเงินเดือนลูกเรือ โดยค่าใช้จ่ายในการเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือ อยู่ที่ 3,562 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 2,992 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 19%
นอกจากนี้ บริษัทได้บันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 150.11 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 161.39 ล้านบาท เนื่องจากการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นกำไรที่เกิดขึ้นจริงจากการจ่ายชำระคืนหนี้สินที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
|