Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 พฤศจิกายน 2549
"แบงก์ชาติ"เผยบึ้มหาดใหญ่-รัฐประหาร ตัวการทำเศรษฐกิจใต้ชะงัก-การลงทุนอืด             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Economics




แบงก์ชาติเผยเศรษฐกิจภาคใต้ ไตรมาส 3 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัว เป็นผลมาจากราคายางพาราที่ลดลง เช่นเดียวกับภาคประมงที่ยังซบเซา ส่วนภาคการเงินได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดหาดใหญ่ และการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ทำให้ผู้ประกอบการรอดูทิศทางการลงทุน ความต้องการสินเชื่อชะลอลง แต่การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอันดามัน ส่งผลต่อการลงทุนของภาคเอกชน และอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น ปี 2550 ไทยได้รับผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอีกระลอก

วานนี้( 6 พ.ย.)ที่สำนักงานสวัสดิสงเคราะห์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ นายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เปิดแถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ ไตรมาสที่ 3 ปี 2549 ว่า เศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อน ทั้งภาคการผลิตและการใช้จ่าย

ด้านการผลิต รายได้จากการขายพืชผลที่สำคัญขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากราคายางพาราที่ปรับลดลง ส่วนด้านประมงทะเลยังซบเซาต่อเนื่อง จากผลกระทบราคาน้ำมันและมาตรการที่เข้มงวดในน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เรือทำประมงน้อย ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าเทียบเรืภาคใต้ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.8

ส่วนภาคอุตสาหกรรมโดยรวมขยายตัวในอัตราชะลอลงจากไตรมาส 2/2549 โดยปริมาณการส่งออกถุงมือยาง สัตว์น้ำแปรรูปและแช่แข็งลดลงร้อยละ 14.7 และ 1.3 ตามลำดับ เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ แต่ผลผลิตน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.1 ขณะที่อุตสาหกรรมยางพารา ไม้ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์ อาหารบรรจุกระป๋อง มีการผลิตเพิ่มตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแม้จะชะลอลงบ้าง แต่ก็ยังขยายตัวในเกณฑ์ดี มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองภาคใต้ 659,383 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 33.0 ซึ่งอยู่ในช่วงกรีนซีซัน แม้จะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ เหตุระเบิดใน อ.หาดใหญ่ และการปฏิรูปการปกครองฯ ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มยกเลิกกการเดินทางทันที และบางกลุ่มเลื่อนการเดินทางออกไปบางส่วนก็ตาม

นายพงศ์อดุล ยังกล่าวต่อถึงด้านการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ว่า ไตรมาสนี้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย เนื่องจากราคายางชะลอตัวลงและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากแรงกดดันต่อการตัดสินใจลงทุนเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อาทิ ราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวลดลง อัตราอกเบี้ยที่ทรงตัว โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.4

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้น โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส2 ซึ่งมีพื้นที่ก่อสร้างลดลงร้อยละ 3.6 เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทางฝั่งทะเลอันดามันและราคายางที่อยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลมีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 แต่จำนวนรายลดลงร้อยละ 16.8 ส่วนโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนมี 11 โครงการ เป็นเงิน 3,413.0 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.7 และ 23.6 ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การลงทุนใน จ.สงขลา

อย่างไรก็ตาม ในภาคการเงินได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในย่านธุรกิจ อ.หาดใหญ่ และการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรอดูทิศทางเพื่อลงทุนในการประกอบธุรกิจ ทำให้ความต้องการสินเชื่อชะลอลง

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจภาคใต้ในปี 2550 นายพงศ์อดุล กล่าวว่า หากพิจารณาจากปัจจัยบวก-ลบแล้ว ก็ยังคงขยายตัวด้านต่างๆ ในเกณฑ์ดี แต่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่สถานการณ์ความไม่สงบยังคงมีอยู่และส่งผลกระทบในหลายด้าน ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง หรือจนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย

ปัจจัยบวกที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจในภาคใต้ ได้แก่ สัญญาณทางการเมืองคลี่คลายชัดเจน ส่งผลให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณสร้างสภาพคล่องได้, อัตราดอกเบี้ยคงที่, รายได้เกษตรกรที่ยีงอยู่ในเกณฑ์ดี โดยธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินราคายางแผ่นรมควันน่าจะอยู่ในระดับ 65 บาท/กก. เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในช่วงไฮซีซัน นักท่องเที่ยวหวนกลับมาเที่ยวฝั่งทะเลอันดามันมากขึ้น ประกอบกับมีเหตุการณ์น้ำท่วมภาคอื่นๆ อาจส่งผลดีให้ภาคใต้เป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวแทน

"กรณีผลกระทบจากเหตุระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ เป็นเพียงระยะสั้น และทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดูแลและสร้างความมั่นใจ ซึ่งในเทศกาลกินเจที่ผ่านมา ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาแล้ว จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวของ จ.สงขลา" นายพงศ์อดุล กล่าวต่อและว่า

ส่วนปัจจัยลบที่ต้องพิจารณาและติดตาม ยังคงเป็นทิศทางของราคาน้ำมันดิบที่แม้ว่าจะอ่อนตัวลงในปลายปีนี้ แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะพุ่งสูงขึ้นอีกหรือไม่ ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีหน้านั้นคาดการณ์แล้วว่าจะเติบโตลดลงเหลือร้อยละ 4.6 ลดจากปี 2549 ที่เติบโตประมาณร้อยละ 5.3 ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างแน่นอน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us