Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 พฤศจิกายน 2549
สตง.งงแบงก์กรุงไทยจ่ายอ่วมทุ่ม10ล้านบ.เลิกจ้างรองเอ็มดี             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
สถิต จูพัฒนกุล




สตง.กังขาแบงก์กรุงไทยมีคำสั่งเลิกจ้าง “สถิต จูพัฒนกุล” รองเอ็มดีแต่กลับประเคนเงินกว่า 10 ล้านบาท หวั่นอาจผิดตามวินัยทางงบประมาณและการคลัง มติบอร์ดระบุพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก้าวร้าว และผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าเกณฑ์ วงในเผยหัวแข็ง ไม่สนองคำสั่งเครือข่ายทักษิณที่ยั้วเยี้ยในบอร์ดจนต้องโดนเขี่ยทิ้ง ทั้งๆ ที่ผลประเมินKPI มาเป็นที่ 1

แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) KTB ได้ส่งหนังสือแจ้งผลการประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 18/2549(681) โดยมีมติให้บอกเลิกสัญญาจ้างนายสถิต จูพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานเครือข่ายนครหลวงโดยจ่ายเงินตามสัญญาจ้างรวมทั้งเงินชดเชยตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2549 เป็นต้นไป โดยจ่ายเงินค่าตอบแทนรวมทั้งสิ้น 10,020,300 บาท เป็นเงินเดือนจ่ายล่วงหน้า 12 เดือนและเงินชดเชยตามกฎหมายอีก 3 เดือน

ซึ่งสตง.จะดำเนินการตรวจสอบการเลิกจ้างดังกล่าวว่าทำให้ธนาคารและผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินผู้ถือหุ้นใหญ่ได้รับความเสียหาย และอาจมีความผิดตามวินัยทางงบประมาณและการคลังได้ ทั้งนี้สตง.ได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารมีมติเลิกจ้างนายสถิตแล้วยังต้องจ่ายเงินสูงถึง 10 ล้านบาท

โดยในรายงานการประชุมของคณะกรรมการธนาคารระบุว่านายสถิต มีพฤติกรรมที่ไม่สมควรเป็นผู้บริหารระดับสูง ประพฤติตนก้าวร้าว ข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้วาจาไม่เหมาะสมสั่งห้ามผู้ใต้บังคับบัญชาให้ความร่วมมือกับสายงานอื่นภายในองค์กรเกี่ยวกับการงานในหน้าที่ ก่อให้เกิดความแตกแยกและขาดสามัคคี ใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน

จนกระทั่งมีผู้บริหารระดับสูงและผู้ใต้บังคับบัญชาอีกหลายระดับในสายงานไม่ยอมรับในพฤติกรรมและไม่ต้องการร่วมปฏิบัติงานด้วย ซึ่งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรโดยรวม กรรมการผู้จัดการผู้บังคับบัญชาโดยตรงได้เรียกนายสถิต มาว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจาหลายครั้งให้ปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมให้ดีขึ้น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายโดยรวมต่อพนักงานและธนาคาร แต่นายสถิต ก็ยังมิได้ปรับปรุงพฤติกรรมของตนเองให้ดีขึ้น แต่ยังคงมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นเดิม

นอกจากนี้ผลการปฏิบัติงานตามเกณฑ์ KPI ของสายงาน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของนายสถิต ก็ไม่เคยผ่านเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดจนต้องมีการปรับปรุงแก้ไข และแม้ต่อมาผลงานKPI จะดีขึ้น แต่ทางด้านการบริหารจัดการก็ยังปรากฏว่าผลการประเมินความร่วมมือและการประสานงานระหว่างสายงานต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ต่ำมาโดยตลอด ผู้บริหารสายงานอื่นไม่อยากยุ่งเกี่ยวและติดต่อประสานงานด้วย

ดังนั้นหากยังให้นายสถิต ปฏิบัติหน้าที่และอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปและปล่อยให้อยู่ในสภาวะเช่นนี้ในการปฏิบัติงานก็จะส่งผลกระทบและความเสียหายต่อการดำเนินงานและภาพลักษณ์โดยรวมของธนาคาร และโดยที่มีแนวโน้มไปในทางลบมากขึ้นเป็นลำดับ ฝ่ายบริหารจึงมีความเห็นว่าจำเป็นต้องแก้ไขโดยให้มีผลเด็ดขาดอย่างรวดเร็ว

โดยเห็นควรเลิกจ้างนายสถิต แม้จะต้องจ่ายเงินชดเชยเพื่อเลิกจ้างก็คุ้มค่าทั้งในแง่ของการบริหารจัดการ การรักษาขวัญและกำลังใจของพนักงาน และการไม่ต้องเสียเวลาและทรัพยากรกับการดำเนินคดีในศาลจึงเห็นควรเลิกจ้างในทันที โดยจ่ายเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง

แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า การที่นายสถิตถูกเลิกจ้างจากธนาคารโดยมติบอร์ดนั้นเนื่องจากเขาเป็นคนที่หัวแข็งไม่ยอมทำตามคำสั่งของบอร์ดซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมาจากบุคคลใกล้ชิดของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยทั้งสิ้น ซึ่งจากการประเมินผลการปฏิบัติงานตามเกณฑ์KPIนั้น นายสถิตก็อยู่ในอันดับต้นๆ มาโดยตลอดและเป็นที่ 1 หลายครั้ง แต่ไม่ยอมทำตามใบสั่งการเมืองจึงเป็นเหตุให้ถูกบอกเลิกจ้างดังกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us